เข้าใจว่า ทุกฝ่ายได้รับความเดือดร้อนแต่รัฐพยายามที่จะช่วยเหลือให้เต็มที่ แต่ก็ต้องคำนึกถึงการระบาดระลอกที่ 2 จึงต้องมีการหารือร่วมกันอย่างรอบครอบ เนื่องจากกิจการดังกล่าวมีการสัมผัสตัวอย่างใกล้ชิด
นายเทวัญ ยังยืนยันว่า ขณะนี้สถานที่ท่องเที่ยวอย่างวัดพระแก้ว, วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร และวัดระฆังโฆสิตาราม เปิดให้เที่ยวชมตามปกติ แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 จึงไม่มีนักท่องเที่ยวเข้าชม เพียงแต่มีการงดกิจกรรมสำคัญทางศาสนาและมีมาตราการรักษาความสะอาดตามมาตรฐาน?กระทรวงสาธารณสุข และบางวัดเริ่มไม่มีเงินจ่ายค่าน้ำค่าไฟซึ่งจะมีการพิจารณาเยียวยาวัดที่ได้รับผลกระทบคาดว่าจะนำตัวอย่างของปี 2552 ที่พระสงฆ์ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ออกบิณฑบาตไม่ได้เพราะมีเหตุการณ์รุนแรง ครม. จึงได้ให้ปัจจัยเยียวยาวันละ 100 บาทต่อรูปมาใช้ในสถานการณ์โควิด-19
นายเทวัญ ย้ำว่าได้มีการนำเรียนนายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งก็ได้มอบหมายให้พิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างโดยได้ทำเรื่องเสนอไปยังกระทรวงการคลังแล้ว โดยสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทั้งนี้มีวัดทั้งหมดกว่า 4 หมื่นวัด และพระเกือบ 3 แสนรูป ทั่วประเทศได้รับความเดือดร้อน คาดว่าใช้งบประมาณเดือนละ 400-500 ล้าน โดยจะให้เงินแต่ละวัดไปบริหารจัดการเองตามจำนวนพระที่มี โดยวัดไหนที่มีศักยภาพ ก็สามารถจัดการและช่วยเหลือประชาชนในละแวก
อย่างไรก็ตาม เรื่องการเยียวยาก็จะต้องมีการหารือกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้กำกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หากจะใช้โมเดลในกรณีเหมือน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่าจะเหมาะสมหรือไม่
ทั้งนี้ นายเทวัญ ในฐานะผู้ประสานงานฝ่ายรัฐบาล(วิปรัฐบาล) ยังกล่าวถึง การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่เริ่มพิจารณาวานนี้ ว่า เป็นไปด้วยดี ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ทุกฝ่ายให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และปิดสมัยการประชุมไปเมื่อเวลา 20.00 น. และจะมีการประชุมวิปรัฐบาลในเช้าวันเสาร์ที่ 30/5/63 เพื่อลงมติในวันอาทิตย์นี้ เช่นกัน ย้ำไม่มีอะไรต้องเป็นกังวล เพราะฝ่ายค้านนำเสนอในสิ่งที่เป็นประโยชน์ และรัฐบาลก็ทำทุกอย่างเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน
นายเทวัญ ยังเปิดเผยว่า วานนี้ได้มอบหมายให้ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ยิงกันเสียชีวิตภายในสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดพิษณุโลก หรือ สวท.พิษณุโลก เพื่อให้ทราบถึงสาเหตุของการก่อเหตุ และรายงานด่วนกลับมาที่ตนเอง เพราะหากเป็นสาเหตุของความเครียดจากการทำงานก็จะต้องเข้าไปดูว่าจะต้องปรับปรุงอะไรบ้าง หรือหากเป็นเรื่องส่วนตัวก็ต้องพิจารณาว่าจะดูแลอย่างไร เพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก
โดยทุกอย่างขอให้ดำเนินการเร่งด่วน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจกับเจ้าหน้าที่ทั้งหมดของกรมประชาสัมพันธ์ พร้อมกับสั่งการให้กำชับทุกสถานีเข้มงวดเรื่องการดูแลความปลอดภัย เช่น การตรวจสอบเรื่องของอาวุธด้วย ย้ำต้องดูแลอย่างใกล้ชิดเพราะในช่วงนี้อาจมีสิ่งที่ทำให้เกิดความเครียดกับบุคลากรได้ ทั้งนี้ตนขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์
ทั้งนี้ นายเทวัญ กล่าวว่าในเรื่องของคดีต้องให้เป็นไปตามขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานจากอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ แต่เชื่อว่ามีมีความคืบหน้าก็จะมีการรายงานเข้ามา