นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เตรียมเรียกประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษในช่วงเช้าวันศุกร์ ที่ 3 เมษายน 2563 ว่า รัฐบาลคงต้องประเมินผลว่าการออกพ.ร.ก.ฉุกเฉินมากว่า 1 สัปดาห์ สามารถแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้มีประสิทธิภาพสูงสุดหรือไม่ ต้องทำมาตรการใดควบคู่เพิ่มเติมอีกหรือไม่ ในแต่ละวันเวลาที่สูญเสียไป คือการสูญเสียโอกาส และเกิดผลกระทบมหาวิกฤติเศรษฐกิจที่สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างหนัก การเสนอแนวทางให้รัฐบาลออกพระราชกำหนดโอนงบประมาณจากงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 โดยพิจารณาจากรายการที่ไม่ใช่รายจ่ายประจำ เพื่อตัดงบประมาณจากโครงการที่ไม่สอดรับกับสถานการณ์ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะเป็นทางออกที่เหมาะสม แต่การเสนอตัดงบประมาณ 10% จากทุกกระทรวงเท่ากันหมด อาจไม่สอดรับกับสถานการณ์ ควรพิจารณางบ63 ให้ละเอียดถี่ถ้วนว่าขาดเหลืออย่างไร กระทรวงสาธารณสุข ไม่ควรจะถูกตัดงบประมาณเท่ากระทรวงอื่น ในขณะที่วันนี้ยังมีข่าวขาดแคลนเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ ถ้าหากไปตัดงบประมาณลง 10% เท่ากระทรวงอื่น เพราะข้าศึกที่มาประชิดรั้วบ้านวันนี้ ไม่ใช้ข้าศึกทางการทหาร แต่คือโควิด-19 ที่ประเทศต้องต่อสู้เอาชนะเพื่อความอยู่รอดปลอดภัยของประชาชน
ทั้งนี้ ความมั่นคงของประชาชน สำคัญไม่น้อยกว่าความมั่นคงของกองทัพ โดยเฉพาะความมั่นคงปลอดภัยในระบบสาธารณสุข การดูแลรักษาชีวิตของประชาชน และความมั่นคงในการดำเนินชีวิตที่จะสามารถฝ่าช่วงเวลามหาวิกฤติครั้งนี้ไปให้ได้ จึงเป็นสิ่งสำคัญ