ซึ่งวันนี้รัฐบาลมีงบกลางที่เตรียมไว้ใช้ยามฉุกเฉินเหลืออยู่พอสมควร หากรวมกับโครงการในงบประมาณปี 63 หลายรายการที่ชะลอได้จะมีตัวเลขเกือบ 2 แสนล้าน ขณะนี้ทั่วโลกประสบปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เหมือนกัน ดังนั้นการชะลอโครงการที่ไม่จำเป็นสามารถทำได้ไม่ยาก เช่นโครงการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพ , โครงการฝึกศึกษาและดูงานต่างประเทศ , โครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่ , โครงการเช่าซื้อรถประจำตำแหน่ง เป็นต้น ซึ่งหากนำงบเหล่านี้มาใช้ก่อนจะทำให้ภาระการกู้ลดลงเหลือเพียงเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวอีกว่า ตนเห็นด้วยกับมาตรการทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลกำหนดออกมา เพื่อช่วยเหลือประชาชนและลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามหากมีความจำเป็นต้องกู้เงิน ก็ควรกู้เท่าที่จำเป็น แม้ฐานะการคลังของประเทศจะแข็งแรงและไม่มีปัญหากับการกู้เงินครั้งนี้ก็ตาม แต่การที่รัฐบาลตั้งใจนำเงินกู้มาแก้ปัญหาทั้งหมดโดยไม่ใช้เงินในกระเป๋าตัวเอง ตนคิดว่าอาจไม่ใช่วิธีการที่ฉลาดและดีที่สุด
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ตนสนับสนุนมาตรการชดเชยรายได้ของรัฐบาลและอยากให้เร่งดำเนินการแจกเงินช่วยเหลือให้ถึงมือประชาชนโดยเร็วที่สุด แต่การแจกเงินเพียงอย่างเดียว ยังไม่เพียงพอกับการแก้ไขปัญหา ดังนั้นนอกจากมาตรการแจกเงินแล้ว รัฐบาลต้องหาวิธีการให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตและทำมาหากินได้ตามปกติ
ทั้งนี้ ตนเกรงว่าถ้าปล่อยไปแบบนี้ เศรษฐกิจจะแย่ไปเรื่อยๆ การปิดเมืองเป็นเรื่องที่ถูกต้องแต่ต้องมีมาตรการรองรับ ไม่ใช่ตัดสินใจปิดเมืองแล้วให้ทุกคนอยู่บ้านเพียงอย่างเดียว ขณะนี้เมื่อประชาชนเรียนรู้การป้องกันตัวได้แล้ว รัฐบาลควรเร่งผ่อนคลายธุรกิจที่ไม่อันตรายก่อน ก่อนหน้านี้รัฐบาลยอมให้ธุรกิจบางประเภทเช่นร้านสะดวกซื้อเปิดบริการได้ ตนจึงมั่นใจว่ารัฐบาลย่อมพิจารณาธุรกิจอื่นๆให้เปิดบริการได้เช่นกัน โดยเฉพาะธุรกิจที่ไม่มีการปฏิสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด หรือธุรกิจที่สามารถเว้นระยะเพื่อป้องกันความเสี่ยง หากธุรกิจใดไม่กระทบกับการแพร่ระบาดหรือมีมาตรการป้องกันที่รัดกุม รัฐบาลควรเร่งพิจารณาโดยด่วน เพราะหากปล่อยให้สภาพเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ คนส่วนใหญ่อาจอดตายก่อนเป็นโควิดตายก็ได้