ศอฉ.ด้วยตนเองก็ได้ แต่ถ้าหากต้องการจะแบ่งความรับผิดชอบให้รองนายกรัฐมนตรีตามมาตรา6 ก็ควรจะเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นผู้ที่มีความเหมาะสมกับตำแหน่งดังกล่าว เป็นพี่ใหญ่ของกองทัพ เป็นผู้จัดการรัฐบาล เป็นผู้มีบารมีตัวจริง มีประสบการณ์ในฐานะเคยเป็นกรรมการ
ศอฉ.เมื่อปี 2553 มาก่อน สามารถทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี และทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทั้ง3ท่านนี้ ก็เคยเป็นกรรมการ ศอฉ.มาก่อนทั้งสิ้น จึงไม่น่าเป็นห่วงสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกรรมการ ศอฉ.โควิด19ในครั้งนี้ แต่สถานการณ์ และเงื่อนไขของ ศอฉ.อาจจะแตกต่างกันตรงที่ ศอฉ.เมื่อปี 2553 มีหน้าที่ควบคุมสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองแต่ ศอฉ.ปี 2563 มีหน้าที่ควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิค-19 ซึ่งบริบทของการบริหาร ศอฉ.อาจจะแตกต่างกัน
ระหว่างเรื่องการเมืองกับเรื่องโรคภัยไข้เจ็บโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็นของประชาชน จะต้องไม่ปิดกั้น หรือ ลิดรอนสิทธิเสรีภาพ ในการแสดงความเห็นทางการเมืองที่เห็นต่างกับรัฐบาล