หน้าแรกกระบวนการยุติธรรมกองปราบจับ ครูน๊อต อดีตเลขา ผอ. สถานบันการศึกษาชื่อดังย่านพระโขนง ยักยอกเงินค่าเทอมนักเรียนกว่า 30 ราย”

กองปราบจับ ครูน๊อต อดีตเลขา ผอ. สถานบันการศึกษาชื่อดังย่านพระโขนง ยักยอกเงินค่าเทอมนักเรียนกว่า 30 ราย”

วันที่ 26 ธค.2562 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก., พล.ต.ต.จิรภพ  ภูริเดช ผบก.ป, พ.ต.อ.สรร มั่นเมืองรยา รอง ผบก.ป. , พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ,พ.ต.ท.สุพจน์  พุ่มแหยม ,พ.ต.ท.อนุชา   ศรีสำโรง , พันตำรวจโท ธนวัฒน์  หิ้นยกฮิ่น และ  พ.ต.ท.ภูวนนท์ สมัครไทย รอง ผกก.5 บก.ป., ว่าที่ พ.ต.ต.ณัฐวุฒิ มงคลการ สว.กก.5 บก.ป. พร้อมชุดปฏิบัติการ 6 กก.5 บก.ป.

นำกำลังเข้าจับกุม นายธีรภัทร  พ่วงวิจิตร อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ที่ จ.615/2562 ลงวันที่ 3 ธ.ค. 62 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ยักยอก” และหมายจับในความผิดลักษณะเดียวกันอีก 36 หมาย (รวมทั้งหมด 37 หมายจับ)

ก่อนเกิดเหตุ ในช่วงเดือน มีนาคม 2561 นายภีรภัทร ผู้ต้องหา อดีตเป็นเลขาผู้อำนวยการสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งย่านพระโขนง มีหน้าที่ในการเร่งรัดเก็บเงินค่าเทอมของนักนักศึกษาภายในสถานบันดังกล่าว โดยปกตินักศึกษาจะจ่ายค่าเทอมให้ผู้ต้องหา ทั้งการโอนเงิน และการจ่ายเงินสด ผู้ต้องหานี้ก็จะโอนเงินดังกล่าวรวบรวมส่งมอบให้โรงเรียน แต่ภายหลังผู้ต้องหาแอบเอาเงินค่าเทอมนักศึกษาไปใช้จ่ายส่วนตัว ภายหลังผู้ต้องหาได้ขอลาออกไป

ค่อมาภายหลังสถาบันการศึกษาได้สอบถามถึงค่าเทอมจากนักศึกษาที่ยังไม่ชำระเงิน ปรากฎว่านักศึกษาเหล่านั้นได้จ่ายเงินค่าเทอมให้กับผู้ต้องหาหมดแล้ว เป็นเหตุทำให้กลุ่มนักศึกษาผู้ที่ได้รับความเสียหาย และรวมตัวกันแจ้งความที่ สน.อุดุมสุข

โดยต่อมาพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องร้องทุกข์จากกลุ่มผู้เสียหาย และได้ออกหมายเรียกแต่ผู้ต้องหา แต่ผู้ต้องหาไม่ยอมเข้าพบพนักงานสอบสวน จนเป็นเหตุในพนักงานสอบสวน สน.อุดมสุข ต้องขออนุมัติศาลจังหวัดพระโขนงออกหมายจับ จำนวน 37 หมายจับ มูลค่าความเสียหายกว่า 600,000 บาทเศษ

ทางกองปราบปรามได้รับการร้องเรียนว่าเรื่องดังกล่าวมีผู้เสียหายเป็นนักศึกษา ซึ่งถือได้ว่าเป็นอนาคตของชาติ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม และชุดสืบสวน สน.อุดมสุขและ สน.ประเวศ ออกติดตามจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ จากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีมาอยู่ที่บริเวณบริเวณถนนเสรีไทย แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ออกสืบสวนหาข่าว และวางเฝ้ารอจนกระทั่งเวลา   เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 62 ก็พบผู้ต้องหาปรากฎตัวจึงเข้าจับกุมจากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้กระทำความผิดในคดีนี้จริง โดยได้นำเงินที่ได้จากการกระทำความผิดไปเที่ยวเตร่ และเล่นการพนัน ก่อนควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


 

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img