ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณีภาพวงจรปิดบริเวณป้อมยามทางเข้าหมู่บ้าน หมู่บ้านพฤกษา 86 เฟส 2 หมู่ 2 ถนนวัดศรีวารีน้อย ต.ศรีษะจระเข้น้อย อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ช่วงเวลา 21.41. น ของคืนวันที่ 31 ม.ค. 61 สามารถจับภาพของ นายยงยันย์ จันทะสะเร อายุ 38ปี อดีตแฟนนักข่าวสาว ที่นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์รับจ้างเข้ามาหานางสาวเหมือนแพรที่บ้านพัก ขณะที่กล้องวงจรปิดอีกมุมของบ้างบ้านพักที่เกิดเหตุสามารถจับภาพของ นายยงยันย์ ไว้ได้อย่างชัดเจนเช่นกัน จากภาพวงจรปิดจะเห็นได้ว่า นายยงยันย์ นั้น เมื่อมาถึงยังบ้านพักที่เกิดเหตุได้ปีนกำแพงรั้วเข้าไปรอบบ้านก่อนจะพยามเรียกนางสาวเหมือนแพรให้ออกมาจากบ้านพัก หรือเปิดประตูเข้าไปด้านใน แต่นางสาวเหมือนแพรไม่ยอมเปิดทำให้นาย ยงยันย์ ผู้ต้องหา ถืออาวุธปืนที่เตรียมมา เดินวงรอบบ้านพักหลายรอบก่อนจะเดินกลับหายไปบริเวณหน้าบ้านพักและลงมือก่อเหตุกระหน้ำยิง จากนั้นจึงถือเป็นเดินย้อนกลับมาจุดเดิม นำปืนยัดใส่กระเป๋ากางเกงก่อนจะปีนกำแพงออกจากจุดเกิดเหตุไป
ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 ก.พ. 2561 พ.ต.อ. วิชิต บุญชินวุฒิกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ นำทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเสาธง คุมตัว ยงยันย์ จันทะสะเร. อายุ 38ปี อดีตแฟนนักข่าวสาว มายังบ้านเลขที่ 86/234 หมู่บ้านพฤกษา 86 เฟส 2 หมู่ 2 ถนนวัดศรีวารีน้อย ต.ศรีษะจระเข้น้อย อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพหลังจากที่ใช้อาวุธลูกโม่.38 กระหน่ำนิงนางสาวเหมือนแพร ศรีสุวรรณ. ภายในบ้านพัก เหตุเกิดคืนวันที่ 31ม.ค. 61 ที่ผ่านมา โดยประชานจำนวนมากที่ทราบข่าวต่างพากันมารอดูการแผนในครั้งนี้ ท่ามกลางการดูแลความสงบและความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างหนาแน่น
ทันทีที่เจ้าตัวถูกตำรวจคุมตัวเดินทางมาถึงก็ลงจากรถตู้มาชี้ก็พบว่ามีสีน่าที่เคร่งเครียดพอสมควร ซึ่งจุดแรกคือข้างกำแพงรั้วของข้างบ้าน ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหารายนี้ปีนเข้าไปในบ้านพักเพื่อหวังเจรจากับน้องทราย หรือนางสาวเหมือนแพร ส่วนจุดที่ 2 คือบริเวณหน้าบ้านพักที่ใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิง ทั้งหมด 9 นัด นายยงยันย์ ให้การรับสารภาพผ่านรองผู้บังคับการว่า ตนเองเมื่อขับขี่รถจยย.ยังหน้าหมู่บ้านก็เดินทางเข้ามาปีนเข้าทางข้างบ้าน และมาเคาะกระจกเรียกนางสาวเหมือนแพร ให้เปิดประตูเพื่อหวังเข้าไปพูดคุยและขอคืนดี แต่ถูกผู้ตายปฎิเสธจึงทำให้เก็บความโมโห จึงใช้ปะแจขันน็อตที่เตรียมมาทุบกระจกให้แตกก่อนจะพยามเอื้อมมือเข้าไปเปิดประตูแต่ถูกนางสาวเหมือนแพรพยามขัดขวาง จึงควักปืนพกชนิดลูกโม่ ขนาด .38 ที่พกมา จ่อกระหน่ำยิงครั้งแรกจำนวน 6 นัด ก่อนจะเป็นกระสุนชุดใหม่และยิงซ้ำอีก 3 นัด รวม 9 นัด จากนั้นจึงปีนกำแพงรั้วเดินเท้าหลบหนีออกจากจุดเกิดเหตุและนำปืนไปโยนทิ้งที่ข้างกำแพงรั้วหน้าหมู่บ้านและเดินทางกลับไปบ้านพัก จากนั้นสำนึกผิดและเสียใจในการกระทำ จึงเดินทางเข้ามอบตัวที่ สน.ทุ่งสองห้อง
โดย นายยงยันย์ เล่าว่า ก่อนหน้านี้เคยแต่งงานอยู่กินกับ น.ส.เหมือนแพร มาหลายปีก่อนจะแยกทางกัน แต่ก็ยังไปมาหาสู่กันอยู่ประจำ ต่อมาช่วงหลังๆ ตนและผู้ตายได้มีปากเสียงกัน ก่อนเกิดเหตุตนได้ดื่มสุราจนเมา และเดินทางไปหาผู้ตายที่บ้านเพื่อพยายามง้อขอคืนดีกับผู้ตาย แต่ผู้ตายปฏิเสธและไม่ยอมเปิดประตูให้เข้าไปในบ้านจึงมีปากเสียงกันและผู้ตายได้โทรศัพท์ตามแฟนใหม่ให้มาช่วย ด้วยความโมโหประกอบกับเมาสุรา ตนจึงได้ได้ชักปืนที่พกติดตัวมายิงกระหน่ำใส่ผู้ตายหลายนัด ก่อนที่จะปีนกำแพงบ้านหลบหนีออกจากจุดเกิดเหตุ
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงพาตัวไปจี้จุดทิ้งปืนซึ่งเป็นจุดสุดท้ายก่อนจะคุมตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.บางเสาธง เพื่อรวบรวมสำนวนคดีเตรียมส่งอัยการฟ้องศาลจังหวัดสมุทรปราการต่อไป