ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ ถ.ราชดำเนินกลาง กทม. น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่(อนค.) กล่าวถึงการประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้(5 มิ.ย.62) ว่า ทางพรรคอนาคตใหม่ยังยืนยันจะเสนอชื่อนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แม้จะถูกยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว แต่ตามรัฐธรรมนูญไม่ได้ถือว่าขาดคุณสมบัติ และต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่านายธนาธรไม่ได้มีสถานะเป็น ส.ส. แต่รัฐธรรมนูญไม่ได้ระบุว่าผู้ดำรงตำแหน่งนายกฯต้องมาจาก ส.ส. แม้เป็นหลักการที่เราไม่เห็นด้วย แต่สุดท้ายแล้ว ถ้าจะทำกันถึงขนาดถอดนายธนาธรออกจาก ส.ส. ก็ยังยืนยันว่านายธนาธรยังมีคุณสมบัติ
“คุณสมบัติของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งตามหลักจรรยาบรรณ หลักคุณค่าประชาธิปไตย บรรทัดฐานสากล แต่ก่อนจะถึงขั้นนั้นคุณสมบัติของผู้โหวตไม่ว่าจะเป็น ส.ส. หรือ ส.ว. อาจจะมีถึง 30 รายที่อาจยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวโดยศาลรัฐธรรมนูญ ตามที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ได้ไปยื่นให้ตรวจสอบการถือครองหุ้นสื่อ ซึ่งเป็นบรรทัดฐานเดียวกันกับนายธนาธร หากศาลรัฐธรรมนูญยึดตามบรรทัดฐานนี้ ก็อาจมี 30 ส.ส.ถูกดำเนินการยุติการปฏิบัติหน้าที่เหมือนกัน” น.ส.พรรณิการ์ กล่าว
โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวด้วยว่า ในเรื่องการวางแผนสืบทอดอำนาจ เราเห็นตั้งแต่รัฐธรรมนูญถูกร่างขึ้น จนแล้วเสร็จก็เป็นแบบนั้นจริง ผู้ที่ออกมารณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญถูกจับติดคุก สุดท้ายผ่านการทำประชามติแล้วนำมาใช้ ก็รู้แล้วว่าทุกอย่างดำเนินไปตามที่ คสช.วางไว้ เป็นการสืบทอดอำนาจ ถ้าถามว่ากติกาที่ไม่เป็นธรรมแบบนี้ทำไมพรรคอนาคตใหม่ยังยอมรับ แล้วลงไปเล่น เพราะต้องการแก้ไขปัญหา คลี่คลายวิกฤตการเมืองให้อยู่ในสภา ตราบใดที่เรายังมีกำลังทำได้ เราต้องการให้ทุกอย่างจบในสภา ดังนั้นไม่ว่าสคริปต์ หรือกฎกติกาจะเขียนอย่างไร เข้าข้างอีกฝ่ายอย่างไร
“เชื่อว่า 81 ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ผนวกกับพรรคแนวร่วมที่ต่อต้านการสืบทอดอำนาจของ คสช.อีก 200 กว่าเสียง จะทำเต็มที่ และคาดหวังว่าทุกพรรคที่เห็นแก่ประชาชนตามที่ได้หาเสียงไว้ จะร่วมกับเราพยายามฉีกสคริปต์ที่ คสช.เขียนไว้ให้ได้ ในเมื่อมีการอภิปรายในสภา ประชาชนคือผู้ที่ฟังแล้วตัดสินจริงๆว่าใครทำตามหน้าที่สมกับที่กินภาษีจากประชาชน” น.ส.พรรณิการ์ กล่าว