นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) แถลงกรณีการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามว่า ตามที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า กกต.มีอำนาจในการตรวจสอบคุณสมบัติ หรือลักษณะต้องห้าม หลังวันเลือกตั้งได้หรือไม หรือทำไมไม่ตรวจสอบให้เสร็จสิ้นในวันสมัครรับเลือกตั้งในคราวเดียวกันนั้น
คุณสมบัติ คือ ลักษณะประจำตัวบุคคล ต้องมีมาก่อนการได้มาซึ่งสิทธิหรือตำแหน่งตามกฎหมาย การกำหนดคุณสมบัติจะเป็นการกำหนดเพื่อให้ได้บุคคลลักษณะเดียวกัน ณ วันสมัครรับเลือกตั้ง กกต.สามารถตรวจสอบคุณสมบัติได้เพราะมีเอกสารรับรองหรืออ้างอิงทุกรายการ
ลักษณะต้องห้าม คือ ลักษณะที่กำหนดขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อห้ามมิให้ผู้มีลักษณะบางประการที่กำหนดไว้หรือพฤติกรรมที่ไม่สมควรเป็นผู้ดำรงตำแหน่งนั้น ณ วันสมัครรับเลือกตั้ง กกต.จะตรวจสอบได้เพียงลักษณะต้องห้ามที่มีข้อมูลอยู่ในความครอบครองของหน่วยงานของรัฐ ซึ่งมีอยู่จำนวน 23 หน่วยงาน
แต่ถ้าเป็นลักษณะต้องห้ามที่ข้อมูลอยู่ในความครอบครองของเอกชน อาจตรวจสอบยังไม่ได้ อาจตรวจสอบยังไม่ได้ จึงต้องให้ผู้สมัครรับรองตนเองไว้ว่า เป็นผู้ไม่มีลักษณะต้องห้าม หากภายหลังความปรากฎว่า เป็นผู้มีลักษณะต้องห้าม อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง กกต.ก็จะดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจตามที่กฎหมายไว้ ไม่ว่าจะเป็นก่อนหรือหลังวันเลือกตั้ง หรือ วันประกาศผลการเลือกตั้งแล้ว
“กรณีการตรวจสอบลักษณะต้องห้ามที่กกต.กำลังดำเนินการอยู่ เป็นกรณีมีผู้ร้องว่า อาจมีการกระทำฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง กกต.จึงต้องดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจให้สิ้นกระแสความ”นายแสวง กล่าว