ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)กล่าวตอนหนึ่งในระหว่างปาฐกถากล่าวปาฐกถาพิเศษใน หัวข้อ “ผู้บริหารส่วนราชการกับการขับเคลือนยุทธศาสตร์ชาติ : One Country One Team” ให้กับผู้บริหาร ระดับสูงว่า ยืนยันประเทศไทยจําเป็นต้องมีความพร้อมด้านความมั่นคง เห็นหลายคนออกมาแสดงความคิด เห็นผ่านสื่อว่าประเทศไทยควรมุ่งเน้นเรื่องสงครามโซเชียลมากกว่าการพัฒนาด้านกําลังรบ และคิดว่า อันตรายมาก เพราะเรามีเส้นเขตแดนกว่า 5 พันกิโลเมตร หากไม่พัฒนาด้านกําลังรบจะเอาอะไรมาดูแลเพื่อ ให้มีศักยภาพกับสงครามตรงนี้ เราไม่ได้ต้องการรบกับใคร แต่ก็ไม่ต้องการให้ใครมาละเมิดอธิปไตยของเรา และมีชีวิตของประชาชน ชีวิตของทหาร แล้วมาพูดอย่างนี้ คิดว่ามันเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ มัน จําเป็นต้องพร้อมทุกอย่าง เพราะเราไม่รู้ในโลกจะเกิดอะไรขึ้น และเราต้องติดตามข่าวต่างประเทศเพื่อสร้าง ความเข้าใจกับประชาชนด้วย ไม่เช่นนันจะถูกชักจูงไปกันหมดว่าจะเอางบประมาณมาทุ่มเทให้ตรงนี้อย่าง เดียว ทังที่ประชาชนยังเดือดร้อน ตนก็ไม่รู้ว่าอย่างอื่นไม่สําคัญเลยหรือ
“ส่วนตัวผมไม่เคยไปวิ่งเต้นกับใครเพื่อขอตําแหน่งใดๆทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นนาย หรือใครจะทะเลาะกับใครแต่ ผมก็ทํางานของผม ความผูกพันอยู่ที่ว่าจะรักเราหรือไม่รักเรา ซึ่งเราต้องมีศักดิศรีในการทํางาน แม้เราจะได้ รับการแต่งตั้ง แต่ถ้าคนในองค์กรไม่รักเรา แล้วเราจะอยู่อย่างไร นั้นจะก่อให้เกิดความเสียหายไปทั้งองค์กร ข้าราชการจะต้องทําให้ลูกน้องภูมิใจในตัวท่าน สร้างศักดิศรีให้ตัวเอง อย่างทีผมสั่งงานไปเยอะแยะในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เพราะถ้าไม่สั่งทุกอย่างก็จะเดินไปไม่ได้” นายกฯกล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า เข้าใจว่าทุกคนมีปัญหา คนทํางานก็อยากขึ้นเงินเดือน ทังนี้การขึ้นเงินเดือนจะต้องพิจารณา โดยรวมในการทํางานของรัฐบาลนั้นจะต้องวางแผนในระยะเร่ิ่มต้น 5 ปี จึงต้องมีการลงทุนเป็นจํานวนมาก จึงถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลลงทุนมากเกินไป อย่างไรก็ตามนโยบายของรัฐบาลเช่นบัตรคนจน ขอยืนยัน ว่า ไม่ใช่ประชานิยม แต่เราทําเพื่อทุกคนให้มีความเท่าเทียมกัน โดยเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงโอกาสเพือ ผู้มีรายได้น้อย เพราะเรื่องของความเท่าเทียมและความยากจน ส่วนใหญ่มักจะนําไปสู่ความขัดแย้ง
ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนานักบริหารระดับสูงเพือการบูรณาการการพัฒนาประเทศไทย 4.0 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผู้สื่อข่าวกล่าวถามถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การเลือกตั้ง ส.ส. สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เสนอแก้ไขมาตรา 2 ให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ 90 วัน หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา จนถูกมองว่าเป็นใบสั่งจากรัฐบาลและ คสช.ที่ต้องการเลือนการเลือกตั้ง โดยทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธตอบคําถามถึงประเด็นและเดินเลี่ยงจากผู้สื่อข่าวแล้วตอบเพียงสั้นๆ ว่า “ไม่มีใบสั่ง”