พลตำรวจโท สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) และ พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) ได้มอบหมายให้ พลตำรวจตรี ดร.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผู้บังคับการ 1 (ผบก.น.1) พร้อมด้วย พลตำรวจตรี นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บังคับการตำรวจจราจร (ผบก.จร.),พันตำรวจเอก มนต์ชัย ศรีประเสริฐ,พันตำรวจเอก สรเสริญ ใช้สถิตย์,พันตำรวจเอก รัชพล ชนะศรีขจร รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (รองผบก.น.1) และเจ้าหน้าตำรวจผู้เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาดังต่อไปนี้
1.แอดมินเพจ ซึ่งมีพฤติกรรมโพสต์ชักชวนให้กลุ่มวัยรุ่นออกมารวมตัวมั่วสุมแข่งรถในทางสาธารณะ ในพื้นที่กรุงเทพมหานครรอยต่อปริมณฑล ซึ่งโดยในการแข่งขันแต่ละครั้งมีการรวมตัวกัน และถ่ายทอดสดลงในเฟสบุ๊คซึ่งมีกลุ่มวัยรุ่นสนใจรับชมและแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก โดยเป็นผู้ต้องหาหมายจับในความผิดฐาน “เป็นผู้สนับสนุนให้มีการแข่งขันรถในทางสาธารณะ” ดำเนินคดีตามกฎหมาย
2.ตรวจค้นร้านจำหน่ายท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและร้านแต่งรถจักรยานยนต์ที่เป็นบ่อเกิดของปัญหาที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนแต่งรถซิ่ง สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนซึ่งมีผลการปฏิบัติดังนี้ ตรวจค้นร้านท่อไอเสีย 20 ร้าน ไม่พบการกระทำความผิด
3.ได้ตรวจวัดระดับเสียงท่อไอเสียที่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเป็นปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมากโดยตรวจรถจักรยานยนต์คันใหญ่ (บิ๊กไบค์) จำนวนทั้งหมด 84 คัน พบมีท่อไอเสียเสียงดังเกินกว่ามาตรฐานกำหนดจำนวน 26 คัน
4.ตรวจยึดรถจักรยานยนต์และควบคุมตัวเด็กและเยาวชนที่ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ 22 และ 46/2558 โดยได้ยึดรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยจำนวน 50 คัน แบ่งเป็นรถจักรยานยนต์ 37 คัน รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ 13 คัน และควบคุมตัวเด็กและเยาวชนได้จำนวน 15 ราย ผู้ใหญ่ 38 ราย รวมทั้งหมด 53 ราย โดยตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดและเก็บตัวอย่าง DNA ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา ผลการปฏิบัติพบสารเสพติดในปัสสาวะเยาวชนจำนวน 1 ราย ผู้ใหญ่ 1 ราย เป็นเมทแอมเฟตามีนทั้ง 2 ราย
จากนั้นจึงได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรวมทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กและเยาวชนในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหากลุ่มวัยรุ่นรวมตัวแข่งขันรถในทางสาธารณะและผู้ขับขี่รถจักรยายนต์คันใหญ่ (บิ๊กไบค์) ว่าก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนเป็นจำนวนมาก ทั้งยังส่งผลร้ายตามมาอีกมากมาย และรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่ช่วยกันปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลโดยอบรมบุตรหลานไม่ให้ออกมารวมตัว มั่วสุมหรือมีพฤติกรรมแข่งขันรถในทางสาธารณะ ส่วนเด็กและเยาวชนที่มีพฤติกรรมแข่งขันรถในทางสาธารณะ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการส่งตัวไปเข้ารับการอบรมตามวันเวลาที่จะกำหนดต่อไป
