หน้าแรกการเมือง"กัณวีร์" ลงพื้นที่ ซ.ทองหล่อ ฟังเสียงแรงงาน วินมอไซค์-แรงงานแพลตฟอร์ม -ไรเดอร์ - ร้านนวดสปา ชูนโยบายพรรคพลวัต ปลดแอกแรงงานนอกระบบ ชี้ เป็นแรงงานทาสสมัยใหม่...

“กัณวีร์” ลงพื้นที่ ซ.ทองหล่อ ฟังเสียงแรงงาน วินมอไซค์-แรงงานแพลตฟอร์ม -ไรเดอร์ – ร้านนวดสปา ชูนโยบายพรรคพลวัต ปลดแอกแรงงานนอกระบบ ชี้ เป็นแรงงานทาสสมัยใหม่ หลัง ถูกเอาเปรียบในแพลตฟอร์ม

เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. นายกัณวีร์ สืบแสง หัวหน้าพรรคพลวัต พร้อมด้วยนายอภิสิทธิ์ ไล่ศัตรูไกล ประธานยุทธศาสตร์และนโยบายพรรคพลวัต เดินทางด้วยแพลตฟอร์มบริหารรถสาธารณะ มาลงพื้นที่ย่านทองหล่อ

นายกัณวีร์ เปิดเผยว่า ตั้งใจใช้บริการเพื่อรับฟังปัญหากับกลุ่มแรงงานแพลตฟอร์ม ทราบว่ามีปัญหาพอสมควร ซึ่งพรรคพลวัตมีนโยบายสิทธิแรงงาน จึงอยากรับฟังว่าตรงกับความต้องการ ขณะที่นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า แพลตฟอร์มในปัจจุบัน มีการจ่ายกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ จึงอยากเห็นแพลตฟอร์มที่มีส่วนแบ่งต่ำลง เพื่อมีรายได้เพิ่มขึ้น และความปลอดภัย อย่างคนขับที่นั่งมาเป็นคนขับผู้หญิง และความปลอดภัยในการบริการ เช่น ข้อกังวลเรื่องยาเสพติด รวมถึงสวัสดิการต่าง ๆ โดยเฉพาะประกันสังคมที่กลุ่มแรงงานแพลตฟอร์มยังเข้าไม่ถึง

จากนั้น นายกัณวีร์ และนายอภิสิทธ์ รวมถึงนายกุลพัสฐ์ พูลศิริวงศ์ ประธานกิจการพิเศษ และนางลดาวัลย์ สุทธิวัจน์ชินเดช รองโฆษกพรรคพลวัต ลงพื้นที่บริเวณซอยทองหล่อ เพื่อพูดคุย รับฟังปัญหา และเสนอนโยบายกับวินมอเตอร์ไซด์ และไรเดอร์ รวมไปถึงพนักงานร้านนวดและสปาด้วย

นายกัณวีร์ ทักทายกลุ่มแรงงานร้านนวด ซึ่งแนะนำพรรคพลวัต เบอร์ 7 เป็นพรรคน้องใหม่ แต่มีคนทำงานด้านสิทธิแรงงาน อยากมาบอกพี่น้องประชาชนว่า พรรคพลวัตของพวกเรามีความตั้งใจ คือการไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยเฉพาะกลุ่มพี่น้องแรงงาน ซึ่งคือพี่น้องแรงงานนอกระบบที่มีอยู่มากมายในประเทศไทยหลายล้านคน เราจึงให้ความสำคัญเป็นพิเศษ และมองเรื่องสวัสดิการ ค่าครองชีพ และปากท้องของพี่น้องประชาชน

“หลายคนทำงานทางแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ได้มาพูดคุยกัน เราได้รับทราบปัญหา โดยเฉพาะปัญหาที่ต้องรับผิดชอบอยู่ ณ ปัจจุบันนี้ แต่ยังไม่มีการแก้ไขในเชิงโครงสร้าง เป็นการแก้ไขวันต่อวันเท่านั้นเอง ทำให้พวกเราไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้ ทั้งการขับรถขี่มอเตอร์ไซค์ และคนที่ให้การดูแลพี่น้องประชาชนเช่น คนที่ทำงานนวดต่าง ๆ ดังนั้น เราจึงมองเห็นว่าต้องแก้ไขเชิงโครงสร้างให้ได้ รวมถึงพี่น้องหาบแร่แผงลอยครับ”

นายกัณวีร์ กล่าวอีกว่า พรรคพลวัตเห็นปัญหาเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายเดิมทั้ง พ.ร.บ. ความสะอาด และระเบียบของกทม. ที่เรามีอยู่ในปัจจุบันนี้ที่ทำให้พี่น้องหาบเร่แผงลอย ต้องทำงานกันต่อไป ดังนั้น พรรคพลวัตนำข้อมูลมานั่งประมวล และดูว่าจะต้องมีการทำกฏหมายใหม่ ๆ กระจายอำนาจให้กับเขตต่าง ๆ ให้มีส่วนร่วมจากทั้งภาคประชาสังคมที่ทำเกี่ยวกับหาบเร่แผงลอย ต้องบูรณาการกัน และจำเป็นต้องดูในภาพรวม เพราะคนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือคนหาบเร่แผงลอย และประชาชนแบบพวกเรา

ปัญหาของประชาชนที่ทำตามแพลตฟอร์มต่าง ๆ คือปัญหาเดิม คือเป็นพาร์ทเนอร์ ซึ่งความจริงแล้ว ต้องเป็นความเท่าเทียม แต่ในปัจจุบัน ความเท่าเทียมหาไม่ได้ และพาร์ทเนอร์กลายเป็นระบบทาสในสมัยใหม่ ต้องมีการปรับปรุงเชิงโครงสร้างทั้งหมดนี้ แล้วก็มีโอกาสที่เราจะเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาทางเชิงโครงสร้างทางกฎหมาย และแบบงานแผนต่าง ๆ ด้วย

นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ยังมีปัญหาเล็กๆ อย่างเช่นการที่เคยทำงานในระบบ แล้วลาออกจากงานมาขับรถในแพลตฟอร์ม เมื่อออกจากระบบประกันสังคมแล้ว ไม่รู้รายละเอียดว่าหากต้องการเงินก้อน จะต้องทำเรื่องภายในกี่วัน พอไม่ได้ทำ ก็สูญเสียเงินก้อนไป หากเราไปเพียงแค่แก้ระบบของประกันสังคม เช่น มีการแจ้งเตือนว่าหากลาออกแล้ว จะมีสิทธิประโยชน์อย่างไรที่จะได้รับต้องทำภายในกี่วัน เป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ว่าสามารถจัดการในระบบได้เลย

“เราต้องมีนโยบายเข้าไปคือการแก้ไขแรงงานที่เป็นแรงงานอิสระ ที่เราจะต้องมีกฎเกณฑ์ต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น เช่น การส่งเสริมให้เกิดอัตราการจ้างสัญญาในการจ้าง ที่อาจต้องเข้าไปดูแล และการจ้าง โดยสามารถตั้งสหภาพแรงงานได้หรือไม่ ทำให้การต่อรองมีคุณภาพขึ้นได้หรือไม่ การจัดการในการพูดคุยกับภาครัฐที่ไปอยู่ในโครงสร้างแล้ว ในระยะยาวคุณภาพชีวิต สวัสดิการเมื่อเจ็บป่วย ไม่มีรายได้ ควรทำอย่างไร หรือสถาบันการเงิน จะมีวิธีการอย่างไร ที่จะช่วยทำให้มีเงินได้”

นายอภิสิทธิ์ กล่าวย้ำว่า คนเหล่านี้คล้ายกับมดงาน ที่ต้องทำงานอยู่ตลอดเวลาทุกวัน แต่ระบบความปลอดภัย ระบบความยั่งยืนในระยะยาว เขาไม่เพียงพอ ดังนั้น เราก็จะขาดกำลังของที่ทำงานโดยเฉพาะในเมืองที่มีชุมชนจำนวนมาก

นายกัณวีร์ กล่าวอีกว่า คนที่ทำงานนอกระบบมีมากมาย การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในมวลรวม มาจากพี่น้องเหล่านี้ เพียงแต่เขายังไม่เข้าถึงสวัสดิการ และเลือกสหภาพแรงงานสำคัญ เพราะหลายครั้ง เรามองข้ามไปว่าสหภาพแรงงานเป็นสิ่งที่เขาสามารถรวมตัวกันได้ จะมีกำลังต่อรองในเชิงอำนาจโครงสร้าง จึงเป็นสิ่งที่ภาครัฐจำเป็นต้องให้ความสำคัญจริง ๆ หากไม่มีอำนาจในการต่อรอง จะทำให้แรงงานถูกกดขี่ พร้อมย้ำว่า นี่เป็นแรงงานทาสสมัยใหม่ ที่จำเป็นต้องแก้ไขโดยเร็วที่สุด

พรรคพลวัต ได้เสนอนโยบายในการคุ้มครองแรงงานนอกระบบ ดังนี้

1. รับรองสถานะ “แรงงานนอกระบบ” ในกฎหมายแรงงานมีมาตรการคุ้มครองแรงงานอิสระ แรงงานแพลตฟอร์ม หาบเร่แผงลอย เกษตรกร วินมอเตอร์ไซด์ ไรเดอร์ รับจ้าง งานบ้าน งานบริการ หลัก ILO Recommendation 204 ว่าด้วยการเปลี่ยนผ่านจากเศรษฐกิจนอกระบบสู่ระบบโดยเน้นการเคารพสิทธิขั้นพื้นฐาน การสร้างงานที่มีคุณภาพ ความมั่นคง)

2. สนับสนุนการจัดตั้งสหภาพ/สมาคมแรงงานรูปแบบใหม่ (sector-based / area-based) สนับสนุนงบประมาณ, ความรู้, พื้นที่และกลไกเจรจา ตั้งต้น (start-up fund)

3. สร้างกองทุนหรือหลักประกันรายได้และค่าตอบแทนที่เป็นธรรมกำหนด อัตราค่าตอบแทนขั้นต่ำอ้างอิงค่าครองชีพ สำหรับงานอิสระ/แพลตฟอร์ม

4. คุ้มครองทางสังคมแบบถ้วนหน้า ประกันสังคมมาตราใหม่สำหรับแรงงานนอกระบบ (ต้องสมัครง่าย รัฐสมทบสูง) คุ้มครองกรณีเจ็บป่วย อุบัติเหตุ ว่างงาน ชราภาพ แยกสิทธิขั้นพื้นฐานออกจากสถานะการจ้าง

5. คุ้มครองความปลอดภัยในการทำงานและอาชีวอนามัย

6. มาตรฐานความปลอดภัยขั้นต่ำสำหรับงานนอกสถานประกอบการ กองทุนชดเชยอุบัติเหตุจากการทำงานนอกระบบ

7.จัดตั้งศูนย์บริการช่วยเหลือแรงงานนอกระบบ วางกลไกให้มีเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายมีอำนาจออกคำสั่ง คุ้มครองสิทธิแรงงานนอกระบบ

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -spot_img
    - Advertisment -spot_img
    - Advertisment -spot_img