ตำรวจสอบสวนกลางสนธิกำลังบุกจับเครือข่ายเงินกู้นอกระบบ “Ball Line” ในพื้นที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี รวบสมาชิกขบวนการ 5 ราย พบคิดดอกเบี้ยโหดเกินกฎหมาย พร้อมขยายผลล่าหัวหน้าเครือข่าย หลังสร้างความเดือดร้อนหนักถึงขั้นเพื่อนบ้านประกาศขายบ้านหนี

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เปิดปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่ายเงินกู้นอกระบบในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับขบวนการปล่อยเงินกู้ผิดกฎหมายในชื่อ “Ball Line” ได้รวม 5 ราย
การปฏิบัติการครั้งนี้อยู่ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. พร้อมผู้บังคับบัญชาระดับสูงของ บช.ก. โดยเจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ป. นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักในพื้นที่หมู่ 4 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังสืบทราบว่ามีการลักลอบปล่อยเงินกู้และเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

ผลการตรวจค้นสามารถจับกุม นายอรรถกฤชฯ อายุ 24 ปี, นายกฤษกรฯ อายุ 20 ปี, นายธนาฯ อายุ 29 ปี
และนายนิติฯ อายุ 22 ปี ทั้งหมดถูกแจ้งข้อหาร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันให้กู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด
นอกจากนี้ยังสามารถจับกุม นายภาคภูมิฯ อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดสุพรรณบุรี และศาลแขวงสุพรรณบุรี รวม 4 หมายจับ ในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ
พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดของกลางเป็นสมุดบันทึกบัญชีปล่อยกู้เงิน 25 เล่ม นามบัตรปล่อยกู้ 3 ชุด และเครื่องคิดเลข 3 เครื่อง

จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ทำอาชีพปล่อยเงินกู้นอกระบบ แจกนามบัตรโฆษณาในหลายพื้นที่ของจังหวัดปทุมธานี และทำหน้าที่ติดตามทวงถามหนี้ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 20 ต่อ 24 วัน ซึ่งเป็นอัตราที่สูงเกินกว่ากฎหมายกำหนดอย่างชัดเจน
ตำรวจระบุว่า กลุ่มดังกล่าวมีการเคลื่อนย้ายพื้นที่ก่อเหตุไปตามจังหวัดต่างๆ ก่อนจะมาปักหลักในพื้นที่ปทุมธานี โดยมี นายภควินทร์ฯ หรือ “บอล” อายุ 31 ปี เป็นหัวหน้าเครือข่าย ใช้ชื่อเครือข่ายว่า “Ball Line” ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่เหลือ
ขณะเดียวกัน จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า นายอรรถกฤชฯ ยังเป็นบุคคลตามหมายจับศาลแขวงสุพรรณบุรี ในคดีเสพยาเสพติดให้โทษ จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วน นายภาคภูมิฯ นำตัวส่งศาลจังหวัดสุพรรณบุรี

ตำรวจสอบสวนกลางขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการกู้ยืมเงินจากแหล่งเงินกู้นอกระบบ ซึ่งนอกจากจะต้องเสียดอกเบี้ยในอัตราสูงแล้ว ยังเสี่ยงต่อการถูกข่มขู่หรือใช้ความรุนแรงในการทวงหนี้ หากประชาชนได้รับความเสียหายสามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สถานีตำรวจในท้องที่ทันที
ทั้งนี้ การประกอบธุรกิจให้กู้ยืมเงินโดยไม่ได้รับอนุญาต และการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ถือเป็นความผิดทางอาญา มีโทษตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

