“หัวหน้าเท้ง” – แกนนำปชน. นำทัพ สมัคร สส.ทั่วประเทศ มั่นใจ ปชช. เห็นผลงาน ย้ำวาระเร่งด่วนประเทศไทยขจัดสีเทา-ความมั่นคง-การจัดการภัยพิบัติ-ฟื้นเศรษฐกิจประเทศ 

117

กรุงเทพฯ, วันที่ 27 ธันวาคม – แกนนำพรรคประชาชน (ปชน.) พร้อมด้วยผู้สมัคร สส.แบบแบ่งเขตทั่วประเทศ ร่วมเดินทางเข้าสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส.แบบแบ่งเขต ตามสถานที่ต่างๆ ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นผู้กำหนด สำหรับการเลือกตั้งเป็นการทั่วไปในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 โดย เท้ง ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้า เป็นผู้นำผู้สมัคร สส.กรุงเทพมหานคร เข้าสมัครรับเลือกตั้งด้วยตนเอง ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น)

ณัฐพงษ์ กล่าวถึงความพร้อมในการสู้ศึกเลือกตั้งว่า พรรคประชาชนมีความมั่นใจและกำลังใจเต็มเปี่ยม เชื่อว่าเพื่อนผู้สมัครทุกคนร่วมเข้ามาทำงานการเมืองเพื่อต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลง และเชื่อมั่นว่าทุกคนได้ผ่านการทำงานและกระบวนการคัดสรรมาอย่างเข้มข้น ไม่มีใครที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายทุนเทาและเครือข่ายอาชญากรข้ามชาติ ซึ่งเป็นปัญหาที่สำคัญของประเทศในขณะนี้ และเป็นภารกิจที่ประชาชนทุกคนต้องทำร่วมกันในการเลือกตั้งวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 ในการขจัดเรื่องสีเทาออกจากประเทศ ทำให้สังคมไทยมีความเท่าเทียมกันและเท่าทันโลก

ในส่วนของกรุงเทพมหานครเองนั้น พรรคประชาชนมีความมั่นใจ และจะหาเสียงอย่างเต็มที่ทั้ง 33 เขต ให้ได้ความไว้วางใจจนเป็นสีส้มทั้งกรุงเทพมหานคร แต่ก็ไม่เคยประมาทและไม่เคยดูถูกเสียงของประชาชน พรรคประชาชนไม่เคยคิดว่าจะมีพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งเป็นเจ้าของเสียงของประชาชน แม้จะมีความมั่นใจว่าทั้งกรุงเทพมหานครเป็นสีส้มแน่นอนแต่ก็จะไม่ประมาท ทุกคนจะหาเสียงอย่างเต็มที่แน่นอนในช่วงเวลาที่เหลืออยู่

ผู้สื่อข่าวถามว่าประเมินคะแนนผู้สมัครแต่ละคนของพรรคประชาชนอย่างไร ณัฐพงษ์ระบุว่าทุกคนได้เกิน 10 แน่นอน ทั้งการทำงานในพื้นที่ และในสภาอย่างเต็มที่ จะเห็นว่าที่ผ่านมาพรรคประชาชนได้ผลักดันกฎหมายหลายฉบับผ่านสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว เป็นอีกหนึ่งผลงานที่ถึงแม้พรรคประชาชนจะทำงานในฐานะพรรคฝ่ายค้าน แต่ก็ไม่ได้อยู่นิ่งเฉยและทำทุกอย่างตามอำนาจหน้าที่ที่มี เพื่อผลักดันสังคมไทยไปข้างหน้าให้ดีที่สุด

ปัญหาเฉพาะหน้าเร่งด่วนตอนนี้คือการขจัดเรื่องสีเทาและปัญหาความมั่นคง ที่นอกจากจะมีปัญหาความมั่นคงชายแดนแล้วยังมีภัยความมั่นคงใหม่ ไม่ว่าจะเป็นอาชญากรรมไซเบอร์ การจัดการภัยพิบัติ ที่ผ่านมาประเทศไทยอาจคุ้นชินกับปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นทุกปี แต่ไม่มีน้ำท่วมครั้งไหนที่ทำให้เกิดความสูญเสียเป็น 100 คนแบบที่ภาคใต้ที่ผ่านมา และยังมีปัญหาในเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจที่โตรั้งท้ายอาเซียน ด้วยปัญหาทางการเมืองที่ผ่านมาต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน

ณัฐพงษ์กล่าวว่าตอนนี้สังคมไทยขาดความเท่าเทียมกันทุกด้าน และเป็นภารกิจที่พรรคประชาชนพร้อมเข้าไปบริหารประเทศ โดยทีมบริหารมืออาชีพ ซึ่งในวันที่ 11 มกราคม 2569 พรรคประชาชนจะมีการเปิดตัวทีมบริหารมืออาชีพตัวจริงที่ไม่ได้มาจากมุ้งใหญ่ ทุนใหญ่ หรือทุนเทา แหล่งที่มาของทีมบริหารมืออาชีพของพรรคประชาชนไม่มีหนี้บุญคุณต้องตอบแทนใคร ซึ่งจะเป็นเงื่อนไขที่สำคัญที่ทำให้พรรคประชาชนเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดของประชาชนที่จะเข้าไปแก้ไขทุกปัญหา

ต่อข้อถามว่าในการเลือกตั้งที่ผ่านมา อดีตพรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้งมาได้ด้วยกระแส ในการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นเช่นเดียวกันหรือไม่ ณัฐพงษ์ระบุว่ากระแสที่เกิดขึ้นเกิดจากการทำงานอย่างแข็งขันของผู้สมัครและคณะทำงานจังหวัดในทุกตำบล อำเภอ และจังหวัด ถ้าพรรคประชาชนสามารถทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นและเชื่อใจในพรรค กระแสภาพรวมทั้งประเทศก็จะเกิดขึ้นเอง เพราะฉะนั้นในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว กระแสที่เกิดขึ้นที่ทำให้อดีตพรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้ง ไม่ได้มาจากกระแสบนโซเชียลมีเดีย แต่เกิดจากการทำความเข้าใจและการทำงานอย่างหนักในพื้นที่ของผู้สมัครทุกคน

เมื่อถามว่าการเปลี่ยนตัวผู้สมัครกรุงเทพมหานคร 10 คนจะส่งผลอย่างไรหรือไม่ ณัฐพงษ์ระบุว่าผู้สมัครหลายคนที่มีการเปลี่ยนตัวยังทำงานร่วมกับพรรคต่อไป หลายคนย้ายไปลงบัญชีรายชื่อด้วยข้อจำกัดทางการเมือง พรรคประชาชนบริหารความเสี่ยงอย่างดีที่สุด และยืนยันว่าการเปลี่ยนตัวผู้สมัครไม่ได้ทำให้มีอุปสรรคแต่อย่างใด แต่ทำให้ได้ผู้สมัครที่เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถเพิ่มเติม และเป็นตัวเลือกที่ดีไม่แพ้กันหรือดีมากยิ่งขึ้นให้กับประชาชนชาวกรุงเทพมหานครด้วยซ้ำ หลายคนร่วมเดินทางมากับพรรคตั้งแต่สมัยอนาคตใหม่ พิสูจน์แล้วว่าอุดมการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง พร้อมอยู่เคียงข้างประชาชนและเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดให้กับชาวกรุงเทพมหานครอย่างแน่นอน

ณัฐพงษ์ยังกล่าวทิ้งท้ายว่านอกจากการเปิดตัวนโยบายที่เกิดขึ้นไปแล้ว วันนี้ยังมีการเปิดโฉมหน้าผู้สมัครทั้ง 400 เขตทั่วประเทศ ที่วันนี้พรรคประชาชนได้ส่งแกนนำร่วมเป็นกำลังใจและรวมส่งใบสมัครกับ กกต. ในทุกจังหวัด รอให้ประชาชนทุกคนได้ติดตามต่อ และจะมีการเปิดตัวทีมบริหารและบุคลากรอีกมาก แล้วประชาชนจะได้เห็นว่าพรรคประชาชนเอาจริงกับการเลือกตั้งครั้งนี้ พร้อมที่จะตัดสินอนาคตประเทศ พาประเทศไทยออกจากปากเหวและพาประเทศไทยไปข้างหน้าต่อไป

ขณะเดียวกัน ผู้สมัคร สส.แบบแบ่งเขต พรรคประชาชน ในจังหวัดต่างๆ ก็ได้ร่วมเดินทางเข้ารับสมัครรับเลือกตั้ง โดยมีแกนนำพรรคประชาชนร่วมสังเกตการณ์ในจังหวัดต่าง ๆ เช่น ภาคอีสาน ที่บุรีรัมย์ นำโดย ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค ที่ศรีสะเกษ และสุรินทร์ นำโดย รังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรค ขอนแก่น นำโดย อภิชาติ ศิริสุนทร อดีต สส. พรรคก้าวไกล นครราชสีมา นำโดย พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรค อุดรธานี นำโดย เดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการนโยบาย อุบลราชธานี นำโดย กรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษก

ภาคเหนือ ที่จังหวัดเชียงใหม่ นำโดย ชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล  พิษณุโลก นำโดย ปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตรองประธานสภา ลำปาง นำโดย ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีต สส.เชียงใหม่, ภาคใต้ ที่จังหวัดภูเก็ต นำโดย วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร รองหัวหน้า นครศรีธรรมราช นำโดย ภคมน หนุนอนันต์ รองโฆษก สงขลา นำโดย พริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษก สุราษฎร์ธานี นำโดย ศรายุทธิ์​ ใจหลัก เลขาธิการพรรค, ภาคตะวันออก ที่จังหวัดจันทบุรี นำโดย วิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้า ชลบุรี นำโดย รักชนก ศรีนอก อดีต สส.กทม.

ทั้งนี้ หลังการรับสมัครเป็นที่เสร็จสิ้น ผู้สมัคร สส. พร้อมด้วยแกนนำพรรคประชาชนที่ร่วมสังเกตการณ์การรับสมัครทั่วประเทศ ได้ร่วมขบวนแห่หาเสียงตามพื้นที่ต่างๆ ในทันที โดยในส่วนของกรุงเทพมหานคร หัวหน้าพรรคประชาชนพร้อมด้วยด้วยผู้สมัคร สส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน จะมีการร่วมขบวนรถแห่จากอาคารกีฬาเวสน์ 2 เดินสายไปตามพื้นที่ต่างๆ ของกรุงเทพมหานคร ก่อนจบเส้นทางที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย