ตำรวจสอบสวนกลางบุกจับลูกจ้างสาววัย 21 ปี หลังแอบขายสินค้าไม่สแกนบาร์โค้ด เรียกเก็บเงินลูกค้าแล้วเชิดหนี เจ้าตัวยอมรับนำเงินไปใช้ส่วนตัว เคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันมาแล้วหลายพื้นที่

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) จับกุม นางสาวสุนีย์ฯ อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีที่ 1064/2568 ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2568 ในข้อหา “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรืออยู่ในความครอบครองของนายจ้าง ในเวลากลางคืน” ได้บริเวณหน้าห้องเช่า ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี
การจับกุมครั้งนี้อยู่ภายใต้การอำนวยการของผู้บังคับบัญชาระดับสูงของ บช.ก. โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กก.1 บก.ป. สืบสวนจนทราบแหล่งกบดานของผู้ต้องหา ก่อนเข้าควบคุมตัวได้โดยไม่เกิดเหตุรุนแรง

สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือนกันยายน 2568 ผู้ต้องหาได้สมัครงานเป็นพนักงานรายวันในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งย่านคูคต ทำหน้าที่คิดเงินและจัดเรียงสินค้า ต่อมาพบพฤติการณ์ทุจริต โดยขายสินค้าให้ลูกค้าแต่ไม่สแกนบาร์โค้ดเข้าเครื่องคิดเงิน จากนั้นเรียกเก็บเงินแล้วนำเงินสดเข้ากระเป๋าตนเอง
เมื่อทางร้านตรวจสอบยอดสินค้าประจำวัน พบว่าสินค้าหายจำนวนมาก จึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดและพบพฤติกรรมดังกล่าว ผู้จัดการร้านจึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.คูคต แต่หลังเกิดเหตุ ผู้ต้องหาได้หลบหนีไม่กลับมาทำงานอีก
จากการตรวจสอบประวัติ พบว่าผู้ต้องหาเคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันในพื้นที่ สน.สายไหม ซึ่งคดียังอยู่ระหว่างการสอบสวน ก่อนจะมาหลบซ่อนตัวในพื้นที่ลำลูกกา จนถูกตำรวจติดตามจับกุมได้ในที่สุด

สอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้นำเงินที่ได้จากการลักทรัพย์ไปใช้จ่ายส่วนตัวทั้งหมด เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คูคต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ตำรวจเตือนภัยประชาชนและแรงงานว่า ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 ความผิดฐานลักทรัพย์นายจ้าง มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1–5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000–100,000 บาท
ตำรวจสอบสวนกลางย้ำ การเผยแพร่ข่าวครั้งนี้เป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะในการสร้างการรับรู้และป้องกันภัย อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหายังถือเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด และขอให้สื่อมวลชนคำนึงถึงสิทธิของผู้ต้องหาควบคู่กับประโยชน์ของสังคมโดยรวม

