ตำรวจสอบสวนกลางเปิดปฏิบัติการเด็ดขาด ทลายขบวนการ Romance Scam หลอกให้รักก่อนตุ๋นลงทุน จับผู้ต้องหาได้ 13 ราย ทั้งไทย–ต่างชาติ พบโยงคดีคอลเซ็นเตอร์อีกเพียบ ความเสียหายรวมกว่า 50 ล้านบาท

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม เปิดปฏิบัติการ “CIB ผ่าขบวนการ Romance Scam ข้ามชาติ” เข้าตรวจค้นและจับกุมเครือข่ายหลอกลวงออนไลน์ขนาดใหญ่ หลอกเหยื่อสร้างความรัก ความไว้ใจ ก่อนชักชวนลงทุน สูญเงินรวมมากกว่า 50 ล้านบาท
ปฏิบัติการดังกล่าวอยู่ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. พร้อมผู้บังคับบัญชาระดับสูง และชุดสืบสวน กก.2 บก.ป. ร่วมกับกำลังจากหลายกองกำกับการในสังกัด บก.ป.
ผลการปฏิบัติสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดระยองได้ 13 ราย จากทั้งหมด 17 ราย ประกอบด้วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงชายสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ อายุ 63 ปี โดยผู้ต้องหาทั้งหมดถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง, ปลอมและใช้เอกสารปลอม, นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์, สมคบและร่วมกันฟอกเงิน
คดีนี้สืบเนื่องจากศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ (ACSC) มอบหมายให้ตำรวจ บก.ป. สืบสวนกรณีผู้เสียหายแจ้งความผ่านระบบ Thaipoliceonline หลังถูกมิจฉาชีพใช้กลอุบาย Romance Scam หลอกให้รักและไว้วางใจ ก่อนขอยืมเงินและชวนลงทุน สูญเงินกว่า 21.9 ล้านบาท

พฤติการณ์พบว่า ผู้เสียหายรู้จักชายชาวต่างชาติผ่านเว็บไซต์หาคู่ ThaiCupid ตั้งแต่ปี 2566 คนร้ายอ้างเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวอาศัยอยู่ต่างประเทศ สร้างความสัมพันธ์ผ่านแอปพลิเคชันไลน์อย่างต่อเนื่องนานกว่า 2 ปี ก่อนวาดฝันสร้างครอบครัวและชวนลงทุนธุรกิจต่างแดน ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินรวม 42 ครั้ง ตั้งแต่ต้นปี 2567 ถึงกลางปี 2568 ก่อนรู้ตัวว่าถูกหลอก
จากการสืบสวนขยายผล ตำรวจพบผู้เกี่ยวข้องในเครือข่ายนี้รวม 17 ราย เป็นคนไทย 14 ราย และชาวต่างชาติ 3 ราย สามารถขอศาลออกหมายจับได้ทั้งหมด และเข้าจับกุมในพื้นที่ 9 จังหวัดทั่วประเทศ โดยปัจจุบันจับกุมได้แล้ว 13 ราย ส่วนอีก 2 รายถูกคุมขังในคดีอื่น และยังมีผู้ต้องหาอีก 2 คน คือชาวแคนาดาและชาวกัมพูชา หลบหนีอยู่ต่างประเทศ อยู่ระหว่างประสานติดตามตัว
นอกจากนี้ ยังพบว่าบัญชีม้าในเครือข่ายเดียวกันเชื่อมโยงกับคดีคอลเซ็นเตอร์อื่นอีกอย่างน้อย 19 คดี ทั้งหลอกลงทุน แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ และหลอกเป็นศิลปินเกาหลี สร้างความเสียหายเพิ่มเติมกว่า 36 ล้านบาท รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมดมากกว่า 50 ล้านบาท

เบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยบางรายอ้างว่าเป็นเพียงผู้รับแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซี ขณะที่บางรายรับว่าเปิดบัญชีธนาคารให้ผู้อื่นใช้งานตามการว่าจ้าง
ตำรวจสอบสวนกลางขอเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อบุคคลในโลกออนไลน์ที่เข้ามาตีสนิท สร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว และชักชวนให้โอนเงินหรือร่วมลงทุน หากยังไม่เคยพบตัวจริงหรือไม่สามารถตรวจสอบที่มาธุรกิจได้อย่างชัดเจน หากพบพิรุธหรือตกเป็นเหยื่อ ให้รีบแจ้งความผ่านเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th ทันที

