ระทึกคลองเตย! ล่ามือปืนคดีพยายามฆ่า ยิงปะทะตำรวจ เด็กหญิง 13 ถูกลูกหลงเจ็บ 2 นาย ตร.บาดเจ็บ 1

118

เปิดภาพวงจรปิดนาที “นายต๊อบ” ผู้ต้องหาคดีพยายามฆ่า ยิงต่อสู้ตำรวจกลางชุมชนคลองเตย หลบหนีเข้าซอยมืด กระสุนพลาดถูกเยาวชนหญิงอายุ 13 ปี บาดเจ็บ 2 ราย ตำรวจ สน.ท่าเรือ เจ็บอีก 1 นาย ผบช.น.เรียกประชุมด่วน เร่งล่าตัวมาดำเนินคดี พร้อมตรวจสอบกระสุนใครเป็นต้นเหตุลูกหลง

เกิดเหตุยิงปะทะกันอย่างระทึกภายในชุมชนคลองเตย ล็อก 4-5-6 แยก 10 เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา หลังตำรวจพยายามเข้าจับกุม นายบุรินทร์ แก้วอบเชย อายุ 46 ปี หรือ “นายต๊อบ” ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีพยายามฆ่าค้างเก่า แต่กลับถูกยิงสวนจนเกิดเหตุชุลมุน ส่งผลให้เยาวชนหญิงอายุ 13 ปี ถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บ 2 ราย และตำรวจได้รับบาดเจ็บอีก 1 นาย

จากคลิปกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ บันทึกภาพขณะนายบุรินทร์พยายามวิ่งหลบหนีการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ ก่อนจะเข้าไปในพื้นที่ชุมชนและมีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ขณะเดียวกัน กล้องอีกมุมสามารถจับภาพเยาวชนหญิงอายุ 13 ปี รายหนึ่ง ล้มลงหลังเสียงปืนสงบลง ส่วนอีกคนรีบวิ่งหลบเข้าไปในบ้านพัก ก่อนทราบภายหลังว่าทั้งสองได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืน โดยรายหนึ่งถูกยิงเข้าที่ขาขวา 1 นัด และอีกรายถูกยิงเข้าที่ก้น 1 นัด

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ร.ต.ต.ไพบูลย์ ชนูนันท์ รองสารวัตรปราบปราม สน.ท่าเรือ ถูกยิงได้รับบาดเจ็บที่มือซ้าย 1 นัด

หลังเกิดเหตุ พนักงานสอบสวน สน.ท่าเรือ พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบริเวณร้านก๋วยเตี๋ยวภายในชุมชนคลองเตย โดยมีอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูเข้าช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด ก่อนนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง

จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ขณะตำรวจนอกเครื่องแบบ สน.ท่าเรือ พบชายต้องสงสัยลักษณะตรงตามหมายจับในคดีพยายามฆ่า ขณะจอดรถซื้อก๋วยเตี๋ยว จึงแสดงตัวขอตรวจค้น แต่ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่จนได้รับบาดเจ็บ ก่อนวิ่งหลบหนีเข้าไปในชุมชน และยิงตอบโต้ตำรวจที่ไล่ติดตาม ส่งผลให้กระสุนพลาดไปถูกเยาวชนในพื้นที่ ก่อนหลบหนีออกไปได้

ต่อมาตำรวจสืบทราบเส้นทางหลบหนีว่า นายบุรินทร์วิ่งเข้าไปในซอยทะลุถนนรถไฟสายเก่า ก่อนเรียกรถจักรยานยนต์รับจ้างไปส่งที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งบนถนนเกษมราษฎร์ เขตคลองเตย เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 และตำรวจนครบาล เข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวทันที แต่ไม่พบตัวผู้ต้องหา


ด้าน​ นายภัทรพล ชาลี ญาติของเยาวชนหญิงอายุ 13 ปี ทั้ง 2 คน เปิดเผยว่า ผู้บาดเจ็บเป็นน้องสาวและหลานสาว ขณะเกิดเหตุทั้งสองเดินไปซื้อของที่ร้านค้าหน้าปากซอย ระหว่างเดินกลับบ้านได้ยินเสียงปืนและเสียงโวยวาย จึงพยายามวิ่งหลบหนี แต่กลับถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่ต้นขา 1 คน ล้มลง ส่วนอีกคนถูกยิงเข้าที่ก้น ขณะนี้แพทย์ต้องผ่าตัดนำกระสุนออก

นายภัทรพล ระบุว่า ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ากระสุนที่ยิงถูกเด็กทั้งสองเป็นของฝ่ายใด แต่เหตุการณ์เช่นนี้ไม่ควรเกิดขึ้น พร้อมเรียกร้องให้ตำรวจเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี และหาผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น


ภายหลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผู้บัญชาการประจำ สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งช่วยราชการดูแลงานสืบสวนคดีสำคัญของกองบัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ได้เรียกประชุมชุดสืบสวน สอบสวน สน.ท่าเรือ ตำรวจนครบาล 5 ชุดปฏิบัติการพิเศษ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานทันที เพื่อเร่งติดตามจับกุมนายบุรินทร์

พล.ต.ต.วิทวัฒน์ เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุเป็นคนในพื้นที่ รู้เส้นทางหลบหนีเป็นอย่างดี จึงสามารถหลบหนีออกจากพื้นที่ไปได้ เบื้องต้นได้ระดมชุดสืบสวนเร่งแกะรอยติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว

สำหรับประวัตินายบุรินทร์ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดีพยายามฆ่า จากเหตุใช้อาวุธมีดทำร้ายร่างกายผู้อื่นช่วงเทศกาลสงกรานต์เดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติหมายจับเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ก่อนตำรวจ สน.ท่าเรือ จะวางแผนเข้าตรวจค้นบ้านพักในวันถัดไป แต่ได้รับแจ้งจากสายลับว่าผู้ต้องหาออกจากที่พัก จึงเข้าตรวจสอบและเกิดเหตุยิงปะทะดังกล่าว

ส่วนกรณีกระสุนที่ถูกประชาชน ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของกองพิสูจน์หลักฐานว่าเป็นกระสุนจากฝ่ายใด โดยยืนยันว่า หากพบว่าเป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ ตำรวจพร้อมรับผิดชอบความเสียหายทั้งหมด

ท้ายที่สุด พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ฝากเตือนประชาชน หากพบเห็นบุคคลต้องสงสัย พกพาอาวุธปืน หรือมีพฤติกรรมอันตราย ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที พร้อมย้ำว่า ตำรวจจะเพิ่มความเข้มงวดในการปราบปรามอาวุธปืนผิดกฎหมาย โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ใกล้จะมาถึง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยอีก.