“เน วินเถื่อน” ควงทนายดัง แจ้งความกลับสาวจีนฐานแจ้งความเท็จ-เบิกความเท็จ หลังติดคุกฟรี 1 ปี 3 เดือน ศาลยกฟ้องคดีข่มขืน

89

เวลา 15.30 น. วันที่ 24 ธ.ค.68 ผศ.ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี หรือ “ทนายความผู้ผดุงความยุติธรรม” พานายธนภัทร คำปันพรม หรือ “เน วินเถื่อน” เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.พญาไท เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับหญิงสาวชาวจีน ในข้อหาแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จต่อศาล หลังศาลอาญาพิพากษายกฟ้องคดีข่มขืนและลักทรัพย์จนคดีถึงที่สุด

ทนายยันหลักฐานชัด “แจ้งความเท็จ” เตรียมเรียกค่าเสียหาย

ผศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบคำพิพากษาพบว่า พยานหลักฐานชี้ชัดว่าผู้กล่าวหาขัดแย้งกับความเป็นจริง ทั้งการแจ้งความและการเบิกความในชั้นศาลถือเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้ นายธนภัทร ต้องสูญเสียอิสรภาพติดคุกนานถึง 1 ปี 3 เดือน โดยในวันนี้ได้นำลูกความมาให้ปากคำเพิ่มเติม และหากพนักงานอัยการสั่งฟ้อง ตนจะขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมเพื่อเรียกค่าสินไหมทดแทนตาม ป.วิ อาญา มาตรา 44/1 ต่อไป

“คดีนี้ต้องเป็นคดีตัวอย่าง ใครก็แจ้งความได้ แต่ถ้าแจ้งความเท็จจนผู้อื่นต้องติดคุก คุณต้องรับผิดชอบทั้งทางอาญาและทางแพ่ง” ทนายเกรียงศักดิ์กล่าวทิ้งท้าย”คนเราควรกล้าในสิ่งที่ควรกล้า….คนเราควรกลัวในสิ่งที่ควรกลัว“

เปิดใจ “เน วินเถื่อน” ชีวิตพังเพราะคำโกหก ต้องอาศัยวัดอยู่

ด้านนายธนภัทร หรือ เน เปิดเผยความในใจว่า สมญานาม “เน วินเถื่อน” หรือ “เน วินหื่น” เป็นสิ่งที่สื่อตั้งให้จนทำให้สังคมตราหน้า ตนยืนยันความบริสุทธิ์มาตลอดว่าเป็นการสมยอมทั้งสองฝ่าย ไม่มีการข่มขืนหรือลักทรัพย์ตามที่ถูกกล่าวหา

ประเด็นข่มขืน – นายธนภัทรตั้งข้อสังเกตว่า หากฝ่ายหญิงสลบจริงตามที่อ้าง จะซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์จาก RCA มาถึงประตูน้ำระยะทางกว่า 3 กิโลเมตรได้อย่างไร

ประเด็นลักทรัพย์ ศาลระบุชัดในคำพิพากษาว่าตนไม่ได้เอาเงิน 6,000 บาทไป และเป็นคนยื่นโทรศัพท์คืนให้ฝ่ายหญิงเอง


นายธนภัทร ระบุด้วยน้ำตาว่า ช่วงเวลาในเรือนจำลำบากมาก ถูกผู้ต้องขังด้วยกันรังเกียจ เมื่อพ้นผิดออกมาญาติพี่น้องก็ยังรับไม่ได้ จนปัจจุบันต้องไปอาศัยวัดอยู่เพราะไม่มีที่ไป จึงต้องออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมและดำเนินคดีกับหญิงชาวจีนรายนี้ให้ถึงที่สุด

เร่งตามตัวสาวจีนรับผิดชอบสำหรับขั้นตอนต่อไป

พนักงานสอบสวนจะดำเนินการตรวจสอบสถานะของหญิงชาวจีนคู่กรณี หากยังอยู่ในประเทศไทยจะเชิญตัวมาแจ้งข้อกล่าวหา แต่หากเดินทางกลับเซี่ยงไฮ้ไปแล้ว จะประสานตามขั้นตอนกฎหมายระหว่างประเทศเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกระบวนการต่อไป