ล่ามือยิงโหดหลังด่านประชาชื่น! ตำรวจเตรียมออกหมายจับ “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” พบเวิลไฟร์จอดทิ้งโรงแรมนครปฐม

107

คดีสะเทือนขวัญกลางทางด่วนศรีรัช ตำรวจนครบาลเร่งล่าตัวมือยิงดับหลังด่านประชาชื่น เตรียมขอศาลออกหมายจับข้อหาหนัก “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” หลังพบรถตู้เวิลไฟร์ที่ใช้ก่อเหตุถูกนำไปจอดทิ้งไว้ในโรงแรม จ.นครปฐม ขณะที่ประวัติผู้ก่อเหตุเคยมีหมายจับพยายามฆ่าเมื่อปี 67

วันนี้ (23 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเหตุยิงชายเสียชีวิตบนทางด่วนศรีรัช บริเวณหลังด่านเก็บเงินประชาชื่น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อยื่นขอศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา”

ล่าสุด ชุดสืบสวนนครบาลตรวจพบรถตู้ โตโยต้า เวิลไฟร์ ซึ่งเป็นรถที่ใช้ในการก่อเหตุ ถูกนำไปจอดทิ้งไว้ภายในโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดนครปฐม เบื้องต้นอยู่ระหว่างนำรถของกลางเข้ามาตรวจสอบที่โรงพัก พร้อมประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจเก็บวัตถุพยานและหลักฐานทุกชนิดอย่างละเอียด

ด้าน​ พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุอย่างใกล้ชิด พร้อมเชิญพยานที่เกี่ยวข้องกับผู้ก่อเหตุก่อนเกิดเหตุมาให้ปากคำ เพื่อประกอบสำนวนคดีในการขอศาลออกหมายจับ

จากการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก พบว่าผู้ก่อเหตุเคยมีหมายจับในคดี พยายามฆ่า เมื่อปี 2567 ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งตำรวจได้นำข้อมูลดังกล่าวมาประกอบการพิจารณาพฤติการณ์คดีครั้งนี้

พล.ต.ต.เกียรติกุล ระบุเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งทั้งหมด แม้แนวโน้มเบื้องต้นจะชี้ว่าชนวนเหตุอาจมาจากความไม่พอใจระหว่างการขับรถบนท้องถนน แต่ยังต้องตรวจสอบรายละเอียดและแรงจูงใจอื่นเพิ่มเติม โดยไม่พบว่าผู้ก่อเหตุกับผู้เสียชีวิตมีความสัมพันธ์หรือรู้จักกันมาก่อน

จากการสอบปากคำพยานทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ก่อเหตุได้นัดสังสรรค์กับเพื่อนรวม 4 คน ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี จากนั้นได้ขับรถไปส่งเพื่อนจนเสร็จ ก่อนจะขับรถกลับและมาเจอกับผู้เสียชีวิตบริเวณหน้าด่านเก็บเงินค่าผ่านทาง

ช่วงเกิดเหตุ รถตู้เวิลไฟร์มีการเปลี่ยนเลนกะทันหันพยายามเบี่ยงขวา ขณะที่รถของผู้เสียชีวิตขับมาตรง ทำให้ต้องหลบออกทางซ้าย ลักษณะคล้ายการปาดหน้ากัน ก่อนที่ทั้งสองคันจะจอดชำระเงินในช่องทางใกล้กัน มีการลดกระจกมองหน้ากัน และเกิดเหตุใช้อาวุธปืนยิงจนมีผู้เสียชีวิตดังกล่าว

ทั้งนี้ ตำรวจยืนยันจะเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด พร้อมขอความร่วมมือประชาชน หากพบเบาะแสสามารถแจ้งข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ได้ทันที