ช่วงที่รัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล แถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอี อภิปรายว่ามีการติดต่อจ่ายสินบนเดือนละ 40 ล้าน เพื่อแลกกับการไม่ปราบแก๊งพนันออนไลน์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์จนฝ่ายตรงข้ามนำไปขยายผลร้องเรียนให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สอบสวนว่านายไชยชนกมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่

นายไชยชนกแก้เกมด้วยการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ขีดเส้น 1 เดือนต้องมีบทสรุป ในจังหวะนั้นตำรวจสอบสวนพบตัวละครที่ไปเจรจากับนายไชยชนก อย่างน้อย 2-3 คน
“ประดู่แดง” พยายามตรวจสอบตามสื่อต่างๆ และแหล่งข่าวที่อยู่ในกระทรวงดีอี ยังไม่พบความคืบหน้าของคดีว่าใครผิดบ้าง ซีกของ ป.ป.ช. ไร้ความคืบหน้า ทำให้เห็นแนวโน้มว่าจะจบมวยล้มต้มคนดู
ช่วงเริ่มต้นรัฐบาลนายอนุทิน ตำรวจและกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จับกุมแก๊งพนันออนไลน์ได้อย่างต่อเนื่อง ยึดทรัพย์สินได้หลายพันล้าน เปิดแถลงข่าวแบบจัดเต็ม
จากนั้นมาตำรวจยังจับกุมแก๊งพนันออนไลน์อย่างต่อเนื่อง เปิดแถลงข่าวบ่อยครั้ง แต่พอตรวจสอบลงรายละเอียดจะพบว่าผู้ต้องหาเป็นเพียงพวกปลาซิว หรือพวกที่เปิดบัญชีม้าไว้รองรับการรับเงินจ่ายเงินให้กับแก๊งพนันออนไลน์เท่านั้น
หากตรวจทางโซเชียลจะพบเว็บไซต์ของแก๊งพนันออนไลน์ ชาวบ้านสามารถเข้าถึงได้ง่าย เปิดรับแทงพนันทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นหวยใต้ดินแทงได้ตลอดสัปดาห์ มีทั้งหวยลาวรับแทงวันจันทร์ พุธ และศุกร์ หวยมาเลเซียทุกวันพุธ วันเสาร์ และวันอาทิตย์ หวยไทยจะมีทั้งหวยกองสลากฯ หวยออมสิน และหวยหุ้น
นอกนั้นยังมีเว็บเปิดให้เล่นพนันชนิดต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย อาทิ บาคาร่า พนันฟุตบอลทั้งลีกไทยและต่างประเทศ ซึ่งเว็บพนันออนไลน์เหล่านี้ ชาวบ้านหรือเยาวชนสามารถเข้าถึงได้ง่าย เพียงมีโทรศัพท์มือถือและเงินแค่ 20 บาท สามารถเปิดเว็บเข้าไปแทงได้แล้ว แต่ละเว็บจะเปิดสำนักงานอยู่ตามจังหวัดต่างๆ อาทิ สงขลา อุดรธานี และบุรีรัมย์ เป็นต้น ในยุครัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ตำรวจไซเบอร์บุกไปจับกุมในพื้นที่บุรีรัมย์มาแล้ว ตรวจสอบพบว่ามีเงินหมุนเวียนกว่า 1,800 ล้านบาท/เดือน
มีบางกลุ่มโดยเฉพาะพวกทายาทนักการเมืองหรือนักการเมือง ตั้งสำนักงานใหญ่ในคาสิโน เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ใช้สั่งการสาขาต่างๆ ที่ตั้งอยู่ตามจังหวัดใหญ่ๆ ของไทย และใช้เป็นที่พักเงินที่โอนจากเมืองไทยเพื่อป้องกันการถูกยึด หากสาขาในไทยถูกจับกุม
ช่วงนี้เว็บของแก๊งพนันออนไลน์จะเพิ่มจำนวนมากขึ้น ทั้งรูปแบบบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล เพราะผู้อยู่เบื้องหลังต้องการเงินสีเทาไปใช้ทั้งซื้อเสียงและค่าใช้จ่ายระหว่างลงพื้นที่หาเสียง
ข้อมูลของเว็บพนันออนไลน์เหล่านี้ ตำรวจไซเบอร์และตำรวจสอบสวนกลาง ได้สืบสวนรวบรวมข้อมูลไว้อย่างครบถ้วน ส่งถึงมือของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) รอง ผบ.ตร. และคาดว่าส่งถึงมือนายไชยชนกแล้วเช่นกัน
ถ้าตรวจสอบว่ากระทรวงดีอี ที่มีเครื่องมือและอุปกรณ์ในการตรวจสอบที่ทันสมัย ได้ดำเนินการสกัดหรือส่งข้อมูลให้ตำรวจจับกุมเว็บพนันเหล่านั้นบ้างหรือไม่ จะพบว่ามีน้อยมาก เพราะถ้าผนึกกำลังกับตำรวจจริง เว็บพนันออนไลน์ทั้งหลายคงจะลดน้อยลงแล้ว
ครั้นส่องถึงความเคลื่อนไหวของตำรวจ แม้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบ.ตร. จะมุ่งมั่นสั่งการให้ตำรวจสืบสวนจับกุมแบบเข้มข้นแค่ไหน แต่บทสรุปของการจับกุมจะพบว่าได้แค่ปลาซิวปลาสร้อยหรือปลายแถว ที่เปิดบัญชีม้าเท่านั้น
สาเหตุที่การปราบปรามไม่บรรลุเป้า คนในแวดวงสีกากีต่างนินทากันว่าเกลือเป็นหนอน เพราะผลประโยชน์จำนวนมหาศาล ทำให้ตำรวจระดับบริหารบางคนทำตัวเป็นหนอน เพราะเคยชินที่กอบโกยผลประโยชน์ตั้งแต่นั่งตำแหน่งผู้บัญชาการ (ผบช.) มี ผบ.ตร. ยุคนั้นคอยเป็นกำแพงให้พิง แถมปิดตาทั้งสองข้างเสมือนเปิดไฟเขียวให้ลุยหาผลประโยชน์แบบไม่อายฟ้าอายดิน ไม่ใส่ใจว่าประชาชนหรือเยาวชนของชาติจะตกเป็นทาสการพนันมากแค่ไหน ขอให้รายได้เข้าพวกกูแบบเป็นกอบเป็นกำก็เพียงพอแล้ว
แม้ ผบช. คนดังกล่าวขยับสู่ตำแหน่งที่สูงกว่า ยังมีอิทธิพลในแวดวงเว็บพนันออนไลน์ เพราะรู้กลไกการหารายได้จากเว็บพนันออนไลน์เป็นอย่างดี สร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำให้กับตัวเองแล้ว ยังขนเงินส่งให้นายเก่าด้วยตัวเลขหลัก 8 ถึง 9 เลยทีเดียว
หากใครส่องโซเชียลในช่วงนี้จะพบเว็บพนันออนไลน์ผุดขึ้นจำนวนมากทั้งไทยและต่างประเทศ ด้วยศักยภาพของกระทรวงดีอีและตำรวจไซเบอร์ สามารถสกัดกั้นเว็บเหล่านี้ไม่ให้ประชาชนหรือเยาวชนเข้าถึงได้สบายอยู่แล้ว แต่กลับนิ่งเฉย ซึ่งสาเหตุคงไม่ต้องอธิบายให้มากความ เพราะรู้ๆ อยู่ว่าเอื้อประโยชน์ต่อกัน
จึงได้แต่เพียงคาดหวังว่าก่อนเกษียณอายุ “พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์” คงมีแนวทางจัดการกับเว็บพนันเหล่านี้ให้เบาบางได้ นอกจากจะช่วยตัดท่อน้ำเลี้ยงที่สร้างความร่ำรวยให้กับผู้บริหาร ตร. บางคน และอดีต ผบ.ตร. บางคนได้แล้ว ยังช่วยตัดทางนักการเมืองเจ้าของธุรกิจพนันออนไลน์ไม่ให้ผงาดเป็น ส.ส. และรัฐมนตรี ได้อีกต่างหาก!!!


