CIB ทลายแก๊งหลอกดาวน์–ขโมย จยย. รวบคารถตู้ทึบ 2 คัน ยึดของกลาง 15 คัน ก่อนข้ามแดนลาว

329

ตำรวจสอบสวนกลาง โดยตำรวจทางหลวง สกัดจับขบวนการหลอกดาวน์–ขโมยรถจักรยานยนต์ ใช้รถกระบะตู้ทึบลำเลียงกลางดึก เตรียมส่งออกผ่านช่องทางธรรมชาติชายแดนมุกดาหาร ยึดของกลางรวม 15 คัน เร่งขยายผลล่าตัวนายทุนและเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. พร้อมคณะผู้บังคับบัญชา สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง กก.6 บก.ทล. วางแผนสกัดจับขบวนการลักลอบขนรถจักรยานยนต์ผิดกฎหมาย หลังได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลำเลียงรถที่ได้มาจากการหลอกดาวน์และโจรกรรม เพื่อนำไปส่งขายยังประเทศเพื่อนบ้าน (สปป.ลาว)

ผลการปฏิบัติการสามารถสกัดจับรถกระบะตู้ทึบได้ 2 คัน พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์รวม 15 คัน แบ่งเป็น รถกระบะตู้ทึบยี่ห้ออีซูซุ สีเทา บรรทุกจักรยานยนต์ 9 คัน มีนายพัฒนพงษ์ อายุ 22 ปี เป็นผู้ขับขี่ และรถกระบะตู้ทึบยี่ห้อโตโยต้า สีขาว บรรทุกจักรยานยนต์ 6 คัน มีนายณัฐพงษ์ อายุ 30 ปี เป็นผู้ขับขี่ และมี Mr. Kongmany สัญชาติลาว อายุ 19 ปี นั่งโดยสารมาด้วย

เหตุเกิดระหว่างวันที่ 13–14 ธันวาคม 2568 ช่วงเวลาประมาณ 23.30–01.50 น. บนถนนทางหลวงหมายเลข 292 เขต ต.สำราญ อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร และถนนทางหลวงหมายเลข 12 กม.724 ต.หนองสูงเหนือ อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร

จากการตรวจสอบ ผู้ขับขี่ทั้งสองไม่สามารถแสดงเอกสารที่มาของรถจักรยานยนต์ได้ และให้การมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดของกลางทั้งหมดไว้ตรวจสอบ ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.คำชะอี จ.มุกดาหาร และ สภ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร ดำเนินคดีตามกฎหมาย

สอบสวนเบื้องต้น นายณัฐพงษ์ รับสารภาพว่า รับจ้างขนรถจักรยานยนต์จากหลายพื้นที่ ทั้งกรุงเทพฯ สระบุรี และนครราชสีมา โดยติดต่อผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ได้ค่าจ้างคันละ 1,500 บาท และทำมาแล้วหลายครั้ง ส่วนนายพัฒนพงษ์ ให้การว่า รับรถจากพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อนำไปส่งชายแดนมุกดาหาร โดยมีผู้ว่าจ้างติดต่อผ่านไลน์ในลักษณะเดียวกัน

การสืบสวนขยายผลพบว่า รถจักรยานยนต์ส่วนใหญ่ยังอยู่ระหว่างการเช่าซื้อ บางคันเพิ่งออกรถได้เพียงไม่กี่วัน ก่อนถูกส่งต่อให้ขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งมีการแบ่งหน้าที่ชัดเจน ตั้งแต่กลุ่มจัดหารถ กลุ่มขนส่งหรือนักบิน ไปจนถึงกลุ่มนายทุนและผู้สั่งการ โดยใช้แอปพลิเคชัน LINE และ Telegram ในการประสานงานอย่างเป็นระบบ

ทั้งนี้ ตำรวจทางหลวงยืนยันจะเร่งขยายผลติดตามจับกุมผู้ว่าจ้าง นายทุน และเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด พร้อมเตือนประชาชน หากพบเบาะแสหรือมีข้อมูลเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์ของกลางทั้ง 15 คัน สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนตำรวจทางหลวง โทร. 1193 ตลอด 24 ชั่วโมง