หน้าแรกกระบวนการยุติธรรมลูกหนี้ผวาแก๊งทวงหนี้บุกถึงในบ้าน เข้าไปถึงห้องครัว หวั่นความปลอดภัยคนในครอบครัว ทั้งเด็กและคนแก่ ร้อง"จ่าคิงส์" พาพึ่งกองปราบ

ลูกหนี้ผวาแก๊งทวงหนี้บุกถึงในบ้าน เข้าไปถึงห้องครัว หวั่นความปลอดภัยคนในครอบครัว ทั้งเด็กและคนแก่ ร้อง”จ่าคิงส์” พาพึ่งกองปราบ

เวลา 11.00 น. วันที่ 12 ธ.ค.68 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ. พา นายล้วน (สงวนนามสกุล) อาศัยอยู่ย่านรามคำแหง ผู้เป็นลูกหนี้เงินกู้นอกระบบ ร้องขอความเป็นธรรมกับกองปราบฯ เนื่องจากถูกกลุ่มเจ้าหนี้บุกเข้าคุกคาม ข่มขู่ถึงภายในบ้านพัก โดยมีการบุกรุกเข้าไปถึงใน ห้องครัว สร้างความหวาดกลัวอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยของคนในครอบครัว ซึ่งมีทั้ง เด็กเล็กและผู้สูงอายุ อาศัยอยู่

นายล้วน เปิดเผยว่า ตนเองเปิดบริษัทรับจ้างรักษาความปลอดภัย ได้ปีกว่า ๆ มีปีญหาการเงินขาดสภาพคล่อง ก่อนจะมีคนรู้จักแนะนำให้กู้เงินนอกระบบ จึงตัดสินใจกู้มาใช้หมุนเวียนในบริษัท เรื่อยมาจนมีเจ้าหนี้รวม 13 ราย ต่อมาถูกกลุ่มเจ้าหนี้ซึ่งมากันประมาณ 2-3 คน มาทวงหนี้ถึงที่บ้านเกือบทุกวัน บางวันมาถึง 4-5 ครั้ง ทำให้ตนและคนในบ้านรู้สึกไม่ปลอดภัยอย่างมาก การบุกรุกเข้าถึงในบ้านถือเป็นการคุกคามอย่างชัดเจน

เจ้าหนี้มีการปล่อยกู้ในลักษณะที่เรียกว่า “หักล่วงหน้า” และคิดดอกเบี้ยในอัตราที่สูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด อัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายรวม ๆ แล้วคิดเป็น ร้อยละ 30 ซึ่งเมื่อมีการกู้ยืมแต่ละครั้ง จะถูกหักเงินต้นไว้ล่วงหน้าเพื่อเป็นค่าตัด 6 วัน และค่าเอกสารอีก 1 วัน รวมเป็น 7 วันต่อการตัดหนี้หนึ่งครั้ง

นายล้วน ยกตัวอย่างว่า หากต้องส่งเงินกู้เป็นรายวัน วันละ 10,000 บาท เมื่อมีการหักล่วงหน้า 7 วัน ก็จะถูกหักเงินไปเปล่าๆ ถึง 70,000 บาท ในแต่ละครั้ง แม้จะมีการจ่ายคืนหนี้อยู่ตลอด แต่ยอดเงินที่ต้องจ่ายไปรวมๆ กันก็เป็นหลักแสนบาท ซึ่งหากคำนวณตามอัตราที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ถือว่าได้จ่ายเงินเกินกว่าจำนวนเงินต้นที่กู้มามากแล้ว และปัจจุบันก็ยังต้องจ่ายหนี้รายวันถึง 10,000 บาทต่อวัน โดยรู้สึกว่าได้จ่ายจนเกินจำนวนที่ควรจะเป็นแล้ว

เนื่องจากมีความหวาดกลัวต่อความไม่ปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สินของคนในบ้าน นายล้วนจึงได้ติดต่อขอให้ จ่าคิงส์ แตงทิม ช่วยพาเข้าปรึกษาและดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายกับ กองปราบปราม เพื่อหาทางออกและคุ้มครองความปลอดภัยของตนเองและครอบครัวในครั้งนี้

จ่าคิงส์ เปิดเผยว่าหลังจากนี้จะพาผู้เสียหายเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หาทางช่วยเหลือผู้เสียหายรายนี้ต่อไป

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img