หน้าแรกกระบวนการยุติธรรมผบ.ตร. สั่งตำรวจยกระดับพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง กำชับออกตรวจเข้มรักษาความปลอดภัยสูงสุด และส่งกองกำลัง ตชด.สนับสนุนทหารในภารกิจแนวหน้า

ผบ.ตร. สั่งตำรวจยกระดับพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง กำชับออกตรวจเข้มรักษาความปลอดภัยสูงสุด และส่งกองกำลัง ตชด.สนับสนุนทหารในภารกิจแนวหน้า

วันนี้ (10 ธันวาคม 2568) เวลา 09.30 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มอบหมายให้ พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร. เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ณ ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สำราญฯ ได้สั่งการให้หน่วยต่าง ๆ ปฏิบัติตามสั่งการของ ผบ.ตร. อย่างเคร่งครัด

ผบ.ตร.ได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนเป็นหน่วยรับผิดชอบหลักตามภารกิจกองกำลังป้องกันชายแดน และสนับสนุนการปฏิบัติในพื้นที่ส่วนหน้า รักษาความปลอดภัยพื้นที่ชายแดนเคียงข้างกองทัพ, การอพยพครู-นักเรียน โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน และให้ตำรวจภูธรภาค 2 และตำรวจภูธรภาค 3 ซึ่งมีพื้นที่รับผิดชอบติดต่อแนวชายแดนไทย – กัมพูชา เป็นหน่วยเสริมหลักในการเตรียมกำลังพร้อมสนับสนุนการปฏิบัติ พร้อมกำชับให้หน่วยที่เกี่ยวข้องยกระดับการปฏิบัติการตามแผนพิทักษ์ส่วนหลัง ดูแลปกป้องรักษาความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน โดยจัดชุดปฏิบัติการตำรวจ ออกตรวจตรา เพิ่มความเข้มในการดูแลทรัพย์สิน บ้านเรือนประชาชน ในห้วงเวลาที่มีการอพยพประชาชนออกจากบ้านพักไปสู่พื้นที่ปลอดภัย รวมทั้งกำหนดเส้นทางหลัก เส้นทางรอง เส้นทางการช่วยเหลือทางการแพทย์และการส่งกำลังบำรุง ตลอดจนอำนวยความสะดวกด้านการจราจร

ทั้งนี้ จนถึงขณะนี้ตำรวจในพื้นที่แนวชายแดนไทย – กัมพูชา จ.สระแก้ว อุบลราชธานี บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จิตอาสาต่าง ๆ ช่วยเหลือประชาชนในการอพยพเข้าสู่ศูนย์พักพิงมากกว่า 110,000 ราย โดยระดมกำลังตำรวจกว่า 4,200 นาย ดูแลความปลอดภัยปกป้องประชาชนที่อาศัยในศูนย์พักพิงต่าง ๆ

พล.ต.อ.สำราญฯ เน้นย้ำให้ตำรวจติดตามและประเมินสถานการณ์ด้านการข่าว ประสานการปฏิบัติกับทุกภาคส่วน และเป็นหน่วยสนับสนุนการปฏิบัติตามอำนาจและหน้าที่ได้ทันทีเมื่อได้รับการร้องขอหรือสั่งการ พร้อมกำชับให้เพิ่มความเข้มงวดในการสอดส่องดูแลระวังภัยเพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับประชาชน ขณะเดียวกันให้เน้นการป้องกันเหตุไม่สงบและตรวจตราบุคคลต้องสงสัยต่าง ๆ ที่อาจสร้างความวุ่นวายในพื้นที่หรือมีพฤติกรรมเป็นภัยหากประชาชนมีเบาะแส แจ้งเหตุ ต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทางสายด่วน 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img