มหาอุทกภัยพื้นที่ 8 จังหวัดปักษ์ใต้ เดินทางมาถึงช่วงฟื้นฟูผสมผสานกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในลักษณะโยนกลองกันไปมาของผู้เกี่ยวข้องท่ามกลางคราบน้ำตาของผู้ประสบภัย

ถ้าได้ติดตามข่าวในห้วงเกิดมหาอุทกภัยกระทั่งสถานการณ์เข้าสู่การฟื้นฟู ภาพจำหนึ่งที่ไม่ค่อยได้ออกสื่อกระแสหลักเว้นแต่สื่อโซเซียลที่ผู้ได้รับการช่วยเหลือแชร์ออกมานั้นคือ การทำงานของตำรวจภายใต้การนำของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) อย่างเป็นระบบเกือบทุกหน้างาน
พลันที่เกิดมหาอุทกภัยในพื้นที่ 8 จังหวัดปลายด้ามขวาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ สั่งการแบบอัตโนมัติ ตามภาระหน้าที่หลักบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชน โดยไม่ต้องรอคำสั่งจากรัฐบาล ด้วยการสั่ง ให้พล.ต.ท.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผบช.ตชด. ระดมกำลังตำรวจ บก.ตชด.ภ.4 พร้อมรถ เรือ และอุปกรณ์ เร่งบรรเทาสาธารณภัย มุ่งไปที่จุดวิกฤตหนักพื้นที่ อ.หาดใหญ่ สงขลา กำชับให้ช่วยประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงอย่างทันที โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ให้นำน้ำ อาหาร ยารักษาโรค สิ่งของจำเป็นส่งให้ผู้ประสบภัยโดยด่วน พร้อมเปิดค่ายตำรวจตระเวนชายแดน(ตชด.) เป็นศูนย์พักพิง มอบหมายให้ พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รองผบ.ตร.งานความมั่นคง กำกับดูแลจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

หลังสั่งการกำลังตำรวจเกือบทุกภาคส่วนลงพื้นที่ทันทีทั้ง ตชด.ที่ผบช.ตชด. เดินทางไปบัญชาการด้วยตัวเอง ตำรวจสอบสวนกลางเกือบทุกหน่วย โดยเฉพาะตำรวจน้ำในพื้นที่ภาคใต้เดินทางเข้าช่วยเหลือทันทีทั้งสงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสตูล
ขณะที่สมาคมแม่บ้านตำรวจ โดยคุณกนกวรรณ พันธุ์เพ็ชร นายกสามคมแม่บ้านตำรวจและสมาชิกแม่บ้านตำรวจร่วมกันเปิดโรงครัวหลายจุดและร่วมประกอบอาหาร ที่ศปก.สน.สภ.คอหงส์ จัดทำข้าวกล่อง ออกแจกจ่ายผู้ประสบภัยตามชุมชนและศูนย์อพยพต่างๆ
นอกจากจะช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่เป็นคนไทยแล้ว พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ สั่งการให้ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวและชาวต่างที่ติดค้างอยู่ในพื้นที่กว่า 1,000 คน ซึ่ง พล.ต.ต.จตุรภัทร์ ภิรมย์แก้ว รองโฆษก ตร.บอกว่า ในพื้นที่หาดใหญ่ มีชาวต่างชาติกว่า 1,000 คน รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ ติดค้างในพื้นที่ประสบภัย ผบ.ตร.กำชับให้เข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ระดมหน่วยกู้ภัยอพยพชาวต่างชาติที่ติดค้างตามโรงแรมและสถานที่พักต่างๆไปยังศูนย์พักพิงที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ พร้อมประสานสถานกงสุลต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง อาทิ สถานกงสุลมาเลเซีย เพื่ออำนวยความสะดวกด้านข้อมูลข่าวสาร ติดตามความช่วยเหลือพลเมืองของแต่ละประเทศ

ช่วงที่ชาวบ้านประสบภัยเกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อมีคนยิงปืนระหว่างที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยขับเจ็ตสกีไปช่วยเหลือ รวมถึงคนร้ายก่อเหตุงัดโบกี้รถไฟปล้นเบียร์ไปจำนวนมาก กลายเป็นประเด็นดรามาตามสื่อโซเซียล พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ สั่งให้ พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9) เร่งสืบสวนจับกุม ภายเวลาไม่ถึง 2 วัน ตำรวจภาค 9 จับกุมคนร้ายปล้นเบียร์ได้ยกแก๊ง คุมตัวคนยิงปืนไล่เจ็ตสกีได้ สารภาพว่าต้องการส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ
เมื่อสถานการณ์เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ตำรวจออกโรงเตือนประชาชนให้ระวังมิจฉาชีพที่หลอกลวงให้บริจาคเงินช่วยผู้ประสบภัย พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกตร.บอกว่ากลุ่มมิจฉาชีพอาจฉวยโอกาสซ้ำเติมด้วยการหลอกลวงรับบริจาค ให้ระมัดระวังการโพสต์ขอบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยในสื่อออนไลน์ มิจฉาชีพจะนำภาพความเดือดร้อนมาสวมรอยใส่เลขบัญชีของตนเองหรือบัญชีมาอ้างว่าเป็นบัญชีของอาสาสมัคร กู้ภัยหรือผู้เดือดร้อนโดยตรง หากพบเบาะแสแจ้งได้ที่สายด่วน 191หรือ 1599
ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัย ผบช.ภ.9 สั่งการให้ตำรวจสายตรวจออกตรวจพื้นทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เพื่อป้องกันภัยอาชญากรรมช่วงฟื้นฟู รวมถึงวางมาตรการคุมเข้มป้องกันเหตุในพื้นที่พักพิงหรือศูนย์อพยพ โดยระดมกำลังตำรวจจากจังหวัดใกล้เคียง ตชด.และสอบสวนกลาง เข้าร่วมปฏิบัติการ
ขณะเดียวกันคณะแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมและให้แนวทางการตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลผู้เสียชีวิต นำโดย พล.ต.ต.เอกลักษณ์ ดีรุ่งโรจน์ นายแพทย์(สบ6)รพ.ตร.หัวหน้ากลุ่มงานศูนย์ส่งกลับฯรวมถึงสนับสนุนหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ลงพื้นที่ หาดใหญ่ ช่วงวันที่ 4-7 ธันวาคม

ที่”ประดู่แดง”ยกมานำเสนอเป็นภารกิจเพียงบางส่วนที่ตำรวจทุกนายร่วมแรงร่วมใจกันปฏิบัติหน้าที่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ยังไม่รวมถึงการระดมรถยกจากกรุงเทพฯเพื่อเคลียร์เส้นทางจราจร พร้อมบริหารจัดการยกรถที่ถูกน้ำท่วมไปจัดเก็บในพื้นที่ปลอดภัย เจ้าของรถสามารถติดต่อได้ที่โรงพักหาดใหญ่ มีความพร้อมให้บริการแบบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว
ที่สำคัญคือการระดมทีมแพทย์นิติเวช เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจและตำรวจภูธรภาค 9 ร่วมปฏิบัติงาน ณ ศูนย์ปฏิบัติการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลฯ มีการจัดระบบชันสูตรพลิกศพ พิสูจน์เอกบุคคลและการติดตามคนสูญหาย มอบหมายให้พล.ต.อ.สำราญ เป็นแม่งาน
ดังนั้นถ้าจะอนุมานว่าตั้งแต่เกิดมหาอุทกภัยจนกระทั่งเข้าสู่ภาวะปกติ ภาวะฟื้นฟู ภาวะชันสูตรพลิกศพ ติดตามคนหาย ตำรวจคือผู้ที่รับบทบาททำหน้าที่ตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ น่าจะเหมาะสมที่สุด และเชื่อว่าคงไม่มีใครกล้าค้านถ้าจะบอกวาสมราคา”ตำรวจของประชาชน” ตามที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ วาดหวังไว้ !!!


