ลพบุรี, วันที่ 3 ธันวาคม – นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อมด้วย นายชื่นชอบ คงอุดม รองหัวหน้าพรรค สพ.ญ. บุษยมาศ เจียมวิจิตรกร ว่าที่ผู้สมัคร สส. ลพบุรี เขต 1 และ นายรุ่งวิทย์ แจ้งสว่าง ว่าที่ผู้สมัคร สส. บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ร่วมปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ ‘สวัสดิการสัตว์เลี้ยง ในมุมมองระดับประเทศ’ ในพิธีเปิดโครงการ ‘Petpass Lopburi เพื่อสังคมที่ยั่งยืน’ ณ สวนสัตว์ลพบุรี พร้อมประกาศเดินหน้าผลักดันนโยบาย ส่งเสริมสวัสดิภาพสัตว์ ตั้ง “โรงพยาบาลสัตว์ราคาถูก” เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้ผู้เลี้ยงและยกระดับสวัสดิภาพสัตว์ทั่วประเทศ
นายพีระพันธุ์ กล่าวถึงสถานการณ์ปัจจุบันของสัตว์ในประเทศไทยที่มีมากกว่า 14 ล้านตัว โดยระบุว่ามี 3 ปัญหาใหญ่ที่ต้องแก้ไขอย่างเป็นระบบ ปัญหาแรกคือ ปัญหาโรคระบาดและเชื้อสู่คน เป็นปัญหาที่น่าห่วงที่สุด เช่น โรคพิษสุนัขบ้า และบาดทะยัก ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขของประเทศโดยตรง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ภาครัฐต้องให้ความสำคัญและดูแลทั้งสัตว์เลี้ยงและสัตว์จรจัด โดยการดูแลเบื้องต้นสำหรับสัตว์เลี้ยงควรมีการฝังไมโครชิพ เพื่อให้สามารถติดตามเจ้าของและสัตว์เลี้ยงได้ ส่วนสัตว์จรจัดถือเป็นปัญหาใหญ่ เพราะไม่มีเจ้าของคอยดูแล ดังนั้นภาครัฐต้องมีการวางระบบแก้ปัญหานี้ให้รอบด้าน
นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อไปว่า ปัญหาที่สอง เรื่องระบบการบริการและการอำนวยความสะดวกที่ไม่เพียงพอและไม่ครอบคลุม ทำให้เจ้าของหรือผู้ที่อยากจะเลี้ยงไม่ยอมเข้าสู่ระบบของภาครัฐ ส่งผลให้ภาครัฐไม่สามารถติดตามแก้ปัญหาได้ทั่วถึง และปัญหาสุดท้าย ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลสัตว์มีราคาสูง เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นการบริการจากโรงพยาบาลสัตว์เอกชน ซึ่งเป็นภาระหนักของผู้เลี้ยง เมื่อรวมกับปัญหาที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้ผู้เลี้ยงบางส่วนปล่อยปละละเลย และนำสัตว์มาปล่อยจนเกิดปัญหาสัตว์จรจัดเพิ่มขึ้น
นายพีระพันธุ์ ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ส่วนตัวในฐานะครอบครัวคนรักสัตว์ ที่เคยรับสัตว์จรจัดมาดูแลรักษา ทำให้ทราบถึงปัญหาค่าพยาบาลที่สูงมาก และอัตราการขยายพันธุ์ที่รวดเร็ว “การดูแลและเลี้ยงดูทำให้ผมรู้ว่าค่ารักษาพยาบาลสัตว์แพงมาก และเมื่อรวมกับปัญหาขาดการจัดการอย่างเป็นระบบที่กล่าวไปข้างต้น จึงเป็นสาเหตุให้ผู้เลี้ยงบางส่วนดูแลไม่ไหวจนต้องปล่อยปละละเลย หรือนำสัตว์มาทิ้ง ซึ่งส่งผลให้ปัญหาสัตว์จรจัดยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น”
นายพีระพันธุ์ ได้นำเสนอแนวนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ โดยมีจุดเน้นคือการ เร่งจัดตั้งโรงพยาบาลสัตว์ราคาถูก เพื่อส่งเสริมสวัสดิภาพสัตว์และผู้เลี้ยงสัตว์ ทั่วประเทศ “ผมมั่นใจว่าหากโรงพยาบาลสัตว์ราคาถูกเกิดขึ้นจริง จะช่วยลดค่าใช้จ่ายของผู้นำสัตว์มารักษาลงประมาณ 50% เช่น ค่าทำหมันจะเหลือไม่เกิน 2,000 บาท ค่าวัคซีนจาก 500 บาท จะเหลือแค่เข็มละ 100 กว่าบาท ย่อมจะช่วยให้สัตว์ได้เข้าถึงการรักษามากขึ้น ข้อกังวลเรื่องโรคระบาดก็จะลดลงไปด้วย โดยในปัจจุบันนี้ภาครัฐไม่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องเหล่านี้ ทั้งที่ส่งผลต่อสุขภาพของคนและสัตว์โดยตรง ผมขอย้ำว่า เราต้องป้องกันไว้ก่อน ดีกว่าปล่อยให้เกิดความเสียหาย ผมจะขับเคลื่อนเรื่องนี้ให้เป็นหนึ่งในนโยบายหลักของพรรครวมไทยสร้างชาติต่อไป” นายพีระพันธุ์ กล่าว
ด้าน นายชื่นชอบ กล่าวเห็นด้วยว่าค่ารักษาสัตว์ในปัจจุบันแพงเกินจริง พร้อมขอบคุณที่นโยบายของพรรคให้ความสำคัญกับสัตว์และผู้เลี้ยง โดยเสนอให้มีการปรับปรุงพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 ให้มีความครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงต้องมีการ ประเมินความพร้อมของผู้เลี้ยงสัตว์ ก่อนนำสัตว์ไปเลี้ยงเพื่อป้องกันการนำสัตว์มาปล่อย
“พรรครวมไทยสร้างชาติจะผลักดันนโยบายนี้อย่างเป็นรูปธรรม โดยนำไปหารือภายในพรรค เพื่อตกผลึกและผลักดันนโยบายให้เกิดขึ้นจริงต่อไป ไม่ต้องเป็นห่วงว่าเราจะผลักภาระทางการเงินไปให้ประชาชนหรือภาครัฐ ขอให้พี่น้องประชาชนสบายใจในเรื่องนี้ได้ เราจะดูแลสุนัข แมว และสัตว์ต่าง ๆ อย่างครอบคลุมทั้งระบบแน่นอน” นายชื่นชอบ กล่าว
ขณะที่ สพ.ญ. บุษยมาศ เปิดเผยว่า จากประสบการณ์ที่ตนทำงานด้านนี้มานานกว่า 18 ปี ตนได้ช่วยเหลือสัตว์ไปจำนวนมากตามกำลังและโอกาสที่ช่วยเหลือได้ ซึ่งต้องยอมรับว่าค่าใช้จ่ายสูงมาก จึงได้นำเสนอแนวนโยบายนี้ต่อนายพีระพันธุ์ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งให้การตอบรับและพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ “ขอขอบคุณพรรครวมไทยสร้างชาติ และคุณพีระพันธุ์ที่ให้การสนับสนุน มั่นใจว่าหากนโยบายนี้มีผลเป็นรูปธรรมจะลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้เลี้ยง และสัตว์ต่าง ๆ ก็จะได้รับการช่วยเหลือและการดูแลรักษาอย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น”
นายรุ่งวิทย์ กล่าวย้ำในช่วงท้ายว่า ตนมั่นใจว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะผลักดันทุกนโยบายให้เกิดขึ้นจริง เพื่อเร่งแก้ไขปัญหา พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชน และพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าต่อไป
ภายหลังเสร็จสิ้นการเสวนา นายพีระพันธุ์และคณะได้หารือร่วมกับผู้อำนวยการสวนสัตว์ลพบุรี เพื่อหาแนวทางการพัฒนาและแก้ไขปัญหาสัตว์อย่างเป็นระบบ จากนั้นได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่ของลิง พร้อมรับฟังข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ก่อนปิดท้ายภารกิจด้วยการเยี่ยมเยียนผู้ประกอบการในงานฤดูหนาวจังหวัดลพบุรี เพื่อรับฟังเสียงสะท้อนด้านเศรษฐกิจและปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน
