ปัตตานี, วันที่ 3 ธันวาคม – สมาคมสื่อมวลชนเพื่อพัฒนาชายแดนภาคใต้ (JSD-South) ร่วมกับ ศูนย์พัฒนาอาชีพ กลุ่มร่วมด้วยช่วยกันชายแดนใต้ และกลุ่มการจัดการจุดเสี่ยงทางถนนฯ สรุปผลการดำเนินงานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังจากได้เปิดปฏิบัติการ “ครัวสนามเร่งด่วน” เพื่อจัดส่งอาหารปรุงสุกพร้อมน้ำดื่มจัดส่งไปในพื้นที่น้ำท่วม โดยเฉพาะจุดที่มีกลุ่มเปราะบาง มาตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน จนถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลา 13 วันเต็ม

น.ส.นาซือเราะห์ เจ๊ะฮะ นายกสมาคม JSD-South สรุปตัวเลขความช่วยเหลือตลอด 13 วัน ว่าทางเครือข่ายได้ผลิตข้าวกล่องพร้อมน้ำดื่มเพื่อแจกจ่ายเฉลี่ยวันละ 1,000 – 1,500 ชุด รวมยอดสะสมทั้งสิ้น 14,900 ชุด นอกจากนี้ยังได้จัดทำถุงยังชีพสำหรับผู้ประสบภัยที่ยังพอประกอบอาหารเองได้อีกจำนวน 1,000 ชุด โดยมีประชาชนติดต่อร้องขอความช่วยเหลือผ่านเครือข่าย เข้ามาทั้งสิ้น 567 คน ประเด็นที่ร้องขอมากที่สุดคือ อาหาร น้ำดื่ม ยารักษาตามอาการ แก้ไอ แก้แพ้ พารา และ ยาแก้น้ำกัดเท้า รวมถึงการขอความช่วยเหลือในการอพยพ และการติดตามหาคนในครอบครัวที่ขาดการติดต่อ โดยพื้นที่ที่มีการร้องขอความช่วยเหลือเข้ามามากที่สุด ได้แก่ อำเภอหาดใหญ่ รองลงมาคือ อำเภอนาทวี อำเภอจะนะ และอำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ตามด้วยพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ตามลำดับ

สำหรับการดำเนินการครั้งนี้ สรุปค่าใช้จ่ายที่เป็นตัวเงินทั้งสิ้น 58,900 บาท โดยได้รับการสนับสนุนจาก บรรณาธิการเนชั่นทีวี, สำนักข่าวอิศรา, นายแพทย์ชัยวัฒน์ – แพทย์หญิงสุรางคณา – นางสาวภัทรตา เตชะไพฑูรย์ รวมถึงศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และน้ำใจจากพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศ ที่ร่วมสมทบทุนเพื่อจัดซื้อวัตถุดิบปรุงสุกใหม่ นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุน “น้ำดื่มซาร่า” จำนวน 7,200 แพ็ค จากบริษัท สราญ เบฟเวอเรจส์ จำกัด (จ.กระบี่) โดย นายอภิชาติ โรจน์สราญรมย์ และและ นายธนกฤต เลิศไกรธนาภา ซึ่ง JSD-South และภาคีเครือข่ายได้กระจายน้ำดื่มไปสู่พื้นที่วิกฤต จ.สงขลา 4,200 แพ็ค และ ปัตตานี ยะลา และ นราธิวาส จังหวัดละ 1,000 แพ็ค

น.ส.นาซือเราะห์กล่าวว่า สมาคมสื่อมวลชนเพื่อพัฒนาชายแดนภาคใต้ และภาคีเครือข่าย ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมสนับสนุน พร้อมทั้งสะท้อนมุมมองต่อการจัดการภัยพิบัติในปี 2568 นี้ว่า เป็นปีที่เห็นภาพการ “บูรณาการ” ของหน่วยงานภาครัฐได้อย่างชัดเจนที่สุด โดยเฉพาะบทบาทของ ศอ.บต. ที่ทำงานสอดประสานกับทางจังหวัดในการแก้ปัญหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
“ขอชื่นชมว่าปีนี้ ทุกหน่วยงานร่วมบูรณาการเป็นหนึ่งเดียวกันมากกว่าทุกๆ ปี แม้สถานการณ์ในหลายพื้นที่จะมีความรุนแรงเกินคาดเดา แต่ภาพรวมมีการประสานงานที่ดีกว่าปีที่ผ่านๆ มา หน่วยงานภาครัฐและภาคประชาสังคมมีการวางแผนงาน และวางแผนพื้นที่ลงช่วยเหลือได้อย่างเหมาะสม และเท่าทันต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น” นายกสมาคมกล่าว

