‘วิสาหกิจชุมชนฟรุทส์ฟาร์มอุบล’ ผลิตกล้วยหอมทองส่งญี่ปุ่น สร้างรายได้กว่า 30 ล้าน

200

“กล้วยหอมทอง” จังหวัดอุบลราชธานี เป็นหนึ่งในสินค้าเกษตรมูลค่าสูงของจังหวัด ภายใต้การขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการยกระดับสินค้าเกษตรและเสริมศักยภาพเกษตรกร “1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูงส่งเสริมให้เกษตรกรทำเกษตรแบบประณีตหรือเกษตรแม่นยำสูง โดยใช้เทคโนโลยีชีวภาพและเทคโนโลยีหมุนเวียน เพื่อยกระดับการผลิตและต่อยอดเป็นสินค้าเกษตรโภชนาการมูลค่าสูง โดยหนึ่งในวิสาหกิจชุมชนที่ประสบความสำเร็จ คือ วิสาหกิจชุมชนฟรุทส์ฟาร์มอุบล หมู่ที่ 9 ต.แก้ง อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ในการผลิตกล้วยหอมทองคุณภาพเพื่อส่งออกประเทศญี่ปุ่น โดยเน้นระบบการผลิตแบบปลอดภัยจากสารพิษ ใช้สารชีวภัณฑ์ ใช้เทคโนโลยีระบบน้ำหยด เน้นการผลิตที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน สร้างรายได้กลุ่มกว่าปีละ 30 ล้านบาท

นางสาวรักชนก ทุยเวียง ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 11 อุบลราชธานี (สศท.11) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การผลิตและการตลาดของกลุ่ม พบว่า เกิดจากการรวมตัวกันของเกษตรกรผู้ปลูกกล้วยหอมทอง ตั้งแต่ปี 2562 ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูก 770 ไร่ (ปลูกเฉลี่ยครัวเรือนละ 4 ไร่) มีสมาชิกผู้ปลูกกล้วยหอม 190 ราย ผลผลิตผ่านการรับรองมาตรฐานเกษตรปลอดภัย (GAP) โดยมีนายณรงค์ศักดิ์ สนัย เป็นประธานกลุ่ม ภายในกลุ่มมีการบริหารจัดการให้ผลผลิตออกสู่ตลาดทั้งปี โดยการหมุนเวียนการปลูกของสมาชิกภายในกลุ่ม เกษตรกรนิยมปลูกพันธุ์แขนทอง เพราะมีเนื้อแน่น รสหวานหอม เปลือกหนา ทนทาน เหมาะสำหรับการส่งออกเกษตรกรจัดสรรพื้นที่ปลูกขนาด 1 ไร่ ปลูกกล้วยหอมทองประมาณ 400 ต้น ปลูกแบบร่องเดี่ยว 2×2 เมตร ใช้ระยะเวลาปลูกประมาณ 8 เดือน จึงเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิต

สถานการณ์การผลิตปี 2568 ได้ผลผลิตรวมปีละ 1,632 ตัน ผลผลิตเฉลี่ยไร่ละ 2,125 กก. โดยทางกลุ่มจะรับซื้อผลผลิตจากสมาชิกในราคาประกัน กก.ละ 17 บาท หรือเครือละ 205 บาท ด้านการตลาด ผลผลิตร้อยละ 80 ทางกลุ่มจำหน่ายให้บริษัท เจ เฟรช เซกะ จำกัด ซึ่งจะเข้ามารับซื้อผลผลิตสัปดาห์ละครั้ง ครั้งละ 27.2 ตัน เพื่อส่งออกประเทศญี่ปุ่นปีละ 1,306 ตัน ซึ่งจะเก็บเกี่ยวความแก่ของผลอยู่ที่ร้อยละ 70 เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาขนส่งประมาณ 15–20 วัน ส่วนการจำหน่ายในประเทศ ร้อยละ 20 ส่งจำหน่าย 7-Eleven ตลาดชุมชนและตลาดเจริญศรีปีละ 326 ตัน เกษตรกรจะส่งจำหน่ายที่ความแก่ของผลอยู่ที่ ร้อยละ 80 โดยราคาขายกล้วยหอมทองเฉลี่ยปี 2568 แบ่งเป็น 3 เกรด ได้แก่ เกรด A ส่งออกประเทศญี่ปุ่น (น้ำหนักลูกมากกว่า 110 – 120 กรัม) ราคาเฉลี่ย กก.ละ 22 บาท ส่วนกล้วยหอมทองเกรด A ที่ไม่ได้มาตรฐานส่งออกจะจำหน่ายในประเทศ ส่วน เกรด B จำหน่ายภายในประเทศ (น้ำหนักต่อลูกต่ำกว่า 110 กรัม) ราคาเฉลี่ย กก.ละ 9 บาท และตกเกรด (น้ำหนักลูกต่ำกว่า 110 กรัม) ราคาเฉลี่ย กก.ละ 6.5 บาท ทั้งนี้จากการจำหน่ายผลผลิตของกลุ่มสร้างรายได้เฉลี่ยไร่ละ 41,092 บาท/รอบการผลิต หากคิดเป็นรายได้ทั้งปีอยู่ที่ 31,558,656 บาท

ทั้งนี้ วิสาหกิจชุมชนฟรุทส์ฟาร์มอุบล ยังมีบทบาทเป็นศูนย์เรียนรู้การปลูกกล้วยหอมทองเพื่อการส่งออก โดยมีการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ให้ผู้สนใจได้เรียนรู้ตั้งแต่การลงแปลงสาธิต การดูแลรักษาการเก็บเกี่ยวผลผลิต การบรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงขั้นตอนการขนส่งสินค้า ซึ่งในแต่ละปีมีผู้สนใจเข้าศึกษาดูงานปีละกว่า 200–300 ราย อีกทั้งกลุ่มยังได้รับการส่งเสริมองค์ความรู้จากสำนักงานเกษตรจังหวัด และกรมส่งเสริมการเกษตร ในด้านการพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตกล้วยหอมทองที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

สำหรับทิศทางการขับเคลื่อนในระยะต่อไป กลุ่มตั้งเป้าขยายพื้นที่ปลูกกล้วยหอมทองเพิ่มขึ้นอีก 100 ไร่ ภายในปี 2568 โดยปัจจุบันขยายพื้นที่ปลูกแล้ว 70 ไร่ และอยู่ระหว่างดำเนินการอีก 30 ไร่ รวมถึงมีแผนต้องการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สร้างมูลค่าในอนาคต เช่น กล้วยเบรกแตกและกล้วยอบน้ำผึ้ง หากผู้ที่สนใจข้อมูลการผลิตกล้วยหอมทองของวิสาหกิจชุมชนฟรุทส์ฟาร์มอุบล สามารถติดต่อคุณณรงศักดิ์ สนัย โทร 06 5809 4996 หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ นายอรรถยา ลาพ้น เกษตรอำเภอเดชอุดมโทร 08 5479 9083