หน้าแรกสุขภาพ-สิ่งแวดล้อม”ศักดิ์ดา“ นั่งหัวโต๊ะประชุมรับมือฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่ภาคกลาง สั่งการผู้ว่าฯ ภาคกลาง บูรณาการ วางแผนเชิงรุก ป้องกันการก่อควัน ลดผลกระทบสุขภาพประชาชนให้มากที่สุด

”ศักดิ์ดา“ นั่งหัวโต๊ะประชุมรับมือฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่ภาคกลาง สั่งการผู้ว่าฯ ภาคกลาง บูรณาการ วางแผนเชิงรุก ป้องกันการก่อควัน ลดผลกระทบสุขภาพประชาชนให้มากที่สุด

วันนี้ (25 พ.ย. 2568) เวลา 13.30 น. นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในการประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในพื้นที่ภาคกลาง โดยมี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี น.ส.อโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมด้วย รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และข้าราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

นายศักดิ์ดา เผยว่า ปัญหาหมอกควัน PM 2.5 ถือว่าเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาวะของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อเกิดหมอกควันขึ้นมาแล้ว อากาศย่อมลอยไปในหลายพื้นที่ หลายจังหวัด ลำพังแล้วท่านผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนในจังหวัดเดียวคงรับมือได้ไม่ทั่วถึง ในวันนี้เราจึงต้องผนึกกำลังของทุกจังหวัดในพื้นที่ภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหาดนคร เพื่อร่วมกันบูรณาการสรรพกำลังหาทางรับมือกับปัญหาหมอกควันล่วงหน้า

“การจัดการปัญหา PM 2.5 ต้องดำเนินการเชิงรุกมากกว่าการแก้ไขเมื่อสถานการณ์เกิดขึ้นแล้ว โดยเฉพาะประเด็น “การป้องกันต้นเหตุของควัน” ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมการเผาในที่โล่ง การกำกับดูแลโรงงานอุตสาหกรรมให้ปฏิบัติตามมาตรฐานมลพิษทางอากาศอย่างเคร่งครัด รวมถึงการตรวจสอบยานพาหนะควันดำอย่างต่อเนื่อง พร้อมสั่งการให้ทุกจังหวัดในภาคกลางจัดทำแผนลดจุดเสี่ยงในพื้นที่ของตนเอง และรายงานความก้าวหน้าต่อ กอปภ.ก. อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถตัดสินใจรับมือได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ” นายศักดิ์ดา กล่าวเน้นย้ำ

นายศักดิ์ดา กล่าวว่า จังหวัดในพื้นที่ภาคกลางเป็นเขตที่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจจำนวนมาก มีประชากรหนาแน่น และมีการเดินทางสัญจรระหว่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง การจัดการมลพิษทางอากาศจึงต้องยึดหลัก “ทำงานแบบไร้รอยต่อ” ระหว่างจังหวัดและส่วนกลาง โดยขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกแห่งประสานงานในพื้นที่ของตน พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลระดับฝุ่น มาตรการควบคุมแหล่งกำเนิดควัน การแจ้งเตือนประชาชน และขอความร่วมมือคนในพื้นที่ช่วยกันลดการเผา ช่วยกันลดฝุ่นละอองด้วย

นายศักดิ์ดา กล่าวในช่วงท้ายว่า กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมุ่งมั่นในการยืนเคียงข้างประชาชน การดูแลคุณภาพอากาศไม่ใช่เพียงภารกิจด้านสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของสุขภาพและคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนทุกคน ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้ร่วมแรงร่วมใจกัน เพื่อลดความรุนแรงของหมอกควันในฤดูกาลนี้ และขอเป็นกำลังกำลังใจให้ทุกฝ่ายดำเนินงานอย่างเต็มที่ ตนและผู้บริหารทุกคนพร้อมให้การสนับสนุน อำนวยความสะดวก หากติดขัดปัญหาประการใดขอให้แจ้งโดยทันที เพื่อร่วมกันสร้างสภาพแวดล้อม อากาศที่บริสุทธิ์ปลอดภัยยิ่งขึ้น

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img