“ครัวสร้างสุข” ศอ.บต.- สมาคมสื่อชายแดนใต้ ลุยพื้นที่ถูกตัดขาด ส่งเสบียงถึงมือผู้ประสบภัย

355

ปัตตานี, วันที่ 25 พ.ย. สมาคมสื่อมวลชนเพื่อพัฒนาชายแดนภาคใต้ (JSD-South) ผนึกกำลังภาคประชาสังคมและกลุ่มจิตอาสา เปิดปฏิบัติการ “ครัวสร้างสุข เพื่อผู้ประสบภัย” ปรุงอาหารสดใหม่ ล่องเรือฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเจาะพื้นที่ “ไข่แดง” ที่ถูกตัดขาด ทั้งในยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา ด้าน “รอกีเยาะ อาบู” เผยโมเดลใหม่ “ส่งเสบียงตั้งครัวในชุมชน” ช่วยชาวบ้านท่าเรือ-ละแอ-ตาชี ฝ่าวิกฤตน้ำป่าหลาก

จากสถานการณ์อุทกภัยวงกว้างในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ล่าสุด สมาคม  JSD-South ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาคประชาสังคม ได้แก่ ศูนย์พัฒนาอาชีพ, กลุ่มร่วมด้วยช่วยกันชายแดนใต้ และ กลุ่มการจัดการจุดเสี่ยงเพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางถนน เปิดปฏิบัติการเชิงรุกภายใต้โครงการ “ครัวสร้างสุข เพื่อผู้ประสบภัย” โครงการดังกล่าวได้รับความอนุเคราะห์และการสนับสนุนจาก นายแพทย์ชัยวัฒน์ – แพทย์หญิงสุรางคณา เตชะไพฑูรย์ ร่วมกับ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพื่อเร่งบรรเทาความเดือดร้อนและส่งมอบกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ยะลา, ปัตตานี, นราธิวาส และสงขลา

ทั้งนี้ทีมงานสมาคมฯ และเครือข่ายพันธมิตร ได้ปรับแผนการช่วยเหลือเป็นการ “ตั้งครัวเคลื่อนที่” โดยเน้นการปรุงอาหารสุกใหม่แบบ “มื้อต่อมื้อ” เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับประทานอาหารที่มีคุณภาพ ทันท่วงที แทนการแจกจ่ายเพียงอาหารแห้ง เป้าหมายหลักของภารกิจคือการเข้าช่วยเหลือใน “พื้นที่ไข่แดง” หรือพื้นที่ที่เข้าถึงได้ยากลำบาก ซึ่งหลายหมู่บ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอกเนื่องจากระดับน้ำท่วมสูงจนเกือบมิดหลังคาเรือน และเส้นทางสัญจรถูกตัดขาด โดยเฉพาะในจุดที่สะพานชำรุดเสียหาย ไม่สามารถใช้รถยนต์ลำเลียงสิ่งของได้ ทีมงานจิตอาสาจึงต้องใช้วิธีลงเรือท้องแบน ฝ่ากระแสน้ำที่เชี่ยวกราก เพื่อนำข้าวกล่องและถุงยังชีพเข้าไปแจกจ่ายให้ถึงมือชาวบ้านที่ยังติดค้างอยู่ในบ้านเรือน ยืนยันเจตนารมณ์ที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

ทางด้าน นางสาวรอกีเยาะ อาบู ประธานศูนย์พัฒนาอาชีพฯ กล่าวถึงการทำงานในครั้งนี้ว่า ขอบคุณ ศอ.บต. รวมถึง นายแพทย์ชัยวัฒน์ – แพทย์หญิงสุรางคณา ที่ได้สนับสนุนกิจกรรมของพวกเรา ทำให้ทีมงานมีกำลังใจและกำลังทรัพย์ในการเข้าพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้าน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องงบประมาณ ทำให้เรามั่นใจว่าเมื่อเข้าไปถึงพื้นที่แล้ว ชาวบ้านจะมีอาหารและน้ำดื่มเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนได้ทันที

“ในบางพื้นที่ที่น้ำท่วมลึกและเข้าถึงยากมาก เราได้ปรับวิธีการด้วยการนำวัตถุดิบเข้าไปให้ชาวบ้านเพื่อเปิดครัวทำอาหารกันเองในพื้นที่เลย อย่างเช่นที่ บ้านท่าเรือ อำเภอโคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ซึ่งวันนี้มีชาวบ้านกว่า 200 ครอบครัวกำลังเดือดร้อนหนัก รวมถึงพื้นที่ ตำบลละแอ และ ตำบลตาชี (อ.ยะหา จ.ยะลา) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เจอน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมฉับพลัน การสนับสนุนครั้งนี้ช่วยให้เราเข้าถึงและเยียวยาชาวบ้านได้รวดเร็วยิ่งขึ้น” นางสาวรอกีเยาะ กล่าว