พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.(มค.) พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ชยพลฉัตรชัยเดช รอง ผบช.ส. พล.ต.ต.ชาติชาย เอี่ยมแสง ผบก.ประจำ บช.ก.และคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ปัตตานี เร่งรัดออกหมายจับ คดีความมั่นหลังคนร้ายก่อเหตุเผากล่องวงจรปิดและลอบวางระเบิดทหารพราน ทำให้มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บกว่า 10 ราย รวมถึงคดีที่คนร้ายก่อเหตุยิงถล่ม ฆ่ายกครัวในพื้นที่ปัตตานีเสียชีวิตกว่า 3 ศพ ในวันเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้พล.ต.อ.ศรีวราห์ และคณะได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าคดี ความมั่นคงในพื้นที่จังวัดปัตตานี จากเหตุการณ์ในวันที่ 10 มกราคม ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่บริเวณเสาไฟฟ้าริมถนนหน้าโรงเรียนบ้านสายหมอ ม.6 ตำบลบางเขา อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ได้รับความเสียหาย และเมื่อเจ้าหน้าที่ทหารพราน ชป.ร้อย.ทพ.4303 ฉก.ทพ.43 เดินทางไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ คนร้ายได้กดชนวนระเบิดที่อยู่ริมถนนเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ จำนวน 10 นาย
ซึ่งในเวลาต่อมาชุดสืบสวนพบว่ากลุ่มคนร้ายได้หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านพักแห่งหนึ่ง ในอำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี จึงได้สนธิกำลังเข้าล้อมตรวจค้นและพบตัว นายสการียา หมื่นรายา อายุ 32 ปี ,นายสาอุดี ยามา อายุ 24 ปี พร้อมทั้งยึด ของกลางเป็น อาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนจำนวนหลายรายการ และควบคุมตัว นายสาลาฮูดิง ลาเต๊ะ อายุ 23 ปี
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่านายสการียา และนายสาอุดี มีหมายจับคดีอาญา และหมายจับตาม พรก.ฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของทหาร จึงได้อาศัยอำนาจตามกฎหมาย ควบคุมตัวบุคคลทั้งสามไว้เพื่อซักถามปากคำ ซึ่งจากการซักถามปากคำ นายสการียา และนายสาอุดี ให้การรับว่าได้ร่วมกันก่อเหตุเผากล้องวงจรปิดและก่อเหตุระเบิด และนายสาอุดี รับว่าอาวุธปืนของกลางที่พบ เคยใช้ก่อเหตุยิงประชาชนเสียชีวิต 2 ราย คือ 1) นายมะเย็ง สะมาแอ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2560 เวลาประมาณ 11.30 น. และ 2) นายมะสอุดี ยูโซะ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2560 เวลาประมาณ 23.30 น. ในพื้นที่ สภ.หนองจิก
ในวันนี้ รอง ผบ.ตร. จึงได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้า หลังมีการสืบสวนจนทราบตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุ พร้อมทั้งได้ เดินทางไปขอหมายจับจากศาลจังหวัดปัตตานี 8 ผู้ต้องหา ได้แก่ นายเมาลานา หรือจิ สาเมาะ อายุ 33 ปี ,นายซารีฟุดดีน หรือแป๊ะ เวาะกอ อายุ 32 ปี,นายรุสลัน หรือดี ใบมะ อายุ 37 ปี,นายอับดุลสตอปา สุหลง อายุ 33 ปี, นายแวอาลี หรืออาลี ดือราเฮ็ง อายุ 28 ปี,นายยูโซะ หรือบะเอะ แมะตีเมาะ อายุ 31 ปี,นายมะนาเซ หรือเซ ไซร์ดี อายุ 27 ปี และ นายนันรูลเลาะ หรือยู ยุนุ อายุ 29 ปี ในความผิดฐาน “ร่วมกันก่อการร้ายโดยใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อสร้างความปั่นป่วนโดยให้เกิดความหวาดกลัวในหมู่ประชาชนและโดยการสะสมกำลังพล อาวุธ ทรัพย์สินเพื่อการก่อการร้าย หรือสมคบกันก่อการร้าย, ร่วมกันเป็นอั้งยี่และซ่องโจร ร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่และโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิด จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส, ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น, ร่วมกันมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันทำ,มีและใช้วัตถุระเบิดซึ่งนายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้โดยไม่ได้รับอนุญาต”
รวมถึงกรณีที่เกิดเหตุคนร้ายจำนวน 3 คน ใช้อาวุธปืนยิงราษฎรเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต คือ นางหาสานะ หะมะ อายุ 29 ปี , นายยูโซะ นิและ อายุ 73 ปี และ นายนาสรี เจ๊ะแมง อายุ 32 ปี รวม 3 ราย เหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 10 มกราคม ในบริเวณพื้นที่ สภ.ทุ่งยางแดง
ซึ่งพนักงานสอบสวน ทำการสืบสวนและ รวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนจะมีการขออำนาจศาลออกหมายจับ นาย บุครี เจะหะ อายุ 26 ปี ในความผิดฐาน “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน และร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธ ปืนติดตัวโดยไม่มีเหตุจำเป็นหรือเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ “ทั้งนี้ในวันนี้ ศาลจังหวัดปัตตานีได้อนุมัติหมายจับทั้งหมดรวมแล้ว 15 หมาย ผู้ต้องหา 11 ราย โดยพล.ต.อ.ศรีวราห์ยังได้สั่งการให้เร่งรัดจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับมาดำเนินคดีต่อไปโดยเร็ว