วันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาข้อดีข้อเสียการยกเลิก MOU 2543 และ MOU 2544 เพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา วุฒิสภา นำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์นพดล อินนา ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ลงพื้นที่อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เพื่อรับฟังสถานการณ์ปัญหา อุปสรรคในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยมีผู้แทนจากกองกำลังบูรพา นายอำเภอโคกสูง นายอำเภออรัญประเทศ นายอำเภอตาพระยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เข้าร่วมประชุมชี้แจงสถานการณ์และข้อมูลในพื้นที่โดยสรุปว่า MOU 2543 ซึ่งเป็นกรณีข้อพิพาทและรุกล้ำอธิปไตยจากฝ่ายกัมพูชาตามหลักเขตแดนที่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ โดยเฉพาะพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว และพื้นที่บ้านหนองจาน

จากนั้น คณะกรรมาธิการวิสามัญได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจภูมิประเทศ โดยพบแนวเส้นแบ่งเขตแดน ได้แก่ หลักเขตแดนที่ 41 ณ บ้านทัพสยาม อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว และตรวจสอบภูมิประเทศและรับทราบสถานการณ์บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว และบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว รวมทั้งจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก และสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยได้รับทราบข้อมูลและข้อเท็จจริง ซึ่งพบว่ากัมพูชาได้ละเมิด MOU 2543 และผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์ดังกล่าว รวมถึงแนวทางในการดำเนินการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการละเมิด MOU 2543

จากการลงพื้นที่เพื่อศึกษาดูงานในครั้งนี้ทำให้คณะกรรมาธิการวิสามัญได้รับทราบข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งเนื่องจากใน MOU 2543 มีสาระสำคัญในข้อ 5 ที่กำหนดให้หน่วยงานของรัฐกับเจ้าหน้าที่ของรัฐงดเว้นการดำเนินการใด ๆ ที่มีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของพื้นที่ชายแดน แต่ที่ผ่านมาโดยเฉพาะบริเวณบ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว ถูกรุกล้ำและบุกรุกเข้ามาในเขตประเทศไทย ซึ่งเป็นการละเมิด MOU 2543 ข้อ 5 อย่างชัดเจน

นอกจากนี้ พบว่าเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายความมั่นคงได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งและเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายเพื่อความปลอดภัยของประชาชนและรักษาอธิปไตยของชาติไว้ ซึ่งคณะกรรมธิการจะได้รวบรวบข้อมูลทั้งหมดจากการเดินทางศึกษาดูงานครั้งนี้ เพื่อประกอบการจัดทำรายงานเสนอวุฒิสภา และฝ่ายบริหารต่อไป

