ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ต.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผบก.ทล.,พ.ต.อ.พิชญ์รุจ กุลวิมลประทีป รอง ผบก.ทล.กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจทางหลวง
นำโดย พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สิทธิใหญ่ ผกก.6 บก.ทล., พ.ต.ท.จิรพันธุ์ รุจิระกุล รอง ผกก.6 บก.ทล., พ.ต.ท.วิษณุ คำโนนม่วง รอง ผกก.6 บก.ทล. ได้สั่งการ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.6 บก.ทล. นำโดย พ.ต.ท.จิระพันธ์ มณีรัตน์ สวญ.ส.ทล.1 กก.6 บก.ทล. , พ.ต.ท.ปานเทพ พจน์ธีระมนตรี สว.ส.ทล.1 กก.6 บก.ทล. ร.ต.ต.กิตติ กล่องพุดซา, ร.ต.ต.วัชรินทร์ อินต๊ะกัน รอง สว.(ป) ส.ทล.1 กก.6 บก.ทล., ด.ต.สมเกียรติ สระขุนทด ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.6 บก.ทล.
ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา นายสุรวัชฯ อายุ 40 ปี ในข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนอาวุธปืนอนุญาตให้ผู้อื่นมีและใช้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว โดยไม่มีเหตุจำเป็น และเร่งด่วนตามสมควร พร้อมของกลาง อาวุธปืนพกสั้นออโตเมติก ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก，เครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 5 นัด ， ซองบรรจุเครื่องกระสุน จำนวน 1 ซอง และ กระเป๋าแบบสะพายสีดำ จำนวน 1 ใบสถานที่จับกุม บริเวณริมถนนทางหลวงหมายเลข 2 กม.167-168 ขาเข้ากรุงเทพฯ ต.หนองงูเหลือม อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา
พฤติการณ์ ตำรวจทางหลวงนครราชสีมา ออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อกวดขันวินัยจราจร และป้องกันปราบปรามอาชญากรรมบนทางหลวง เมื่อมาถึงบริเวณทางหลวงหมายเลข 2 กม.167–168 ขาเข้ากรุงเทพฯ ต.หนองงูเหลือม อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา พบรถบรรทุก ป้ายทะเบียน จ.อ่างทอง บรรทุกสิ่งของยื่นล้ำออกนอกตัวรถ เจ้าหน้าที่จึงขับรถติดตามและแสดงตัวให้หยุดเพื่อตรวจสอบทราบภายหลังว่าผู้ขับขี่ คือ นายสุรวัชฯระหว่างการพูดคุยตรวจสอบ นายสุรวัชฯมีอาการพิรุธ หลีกเลี่ยงสายตา เจ้าหน้าที่จึงสอบถามเพิ่มเติมว่าได้ซุกซ่อนสิ่งผิดกฎหมายไว้หรือไม่ นายสุรวัชฯยอมรับว่ามีอาวุธปืนอยู่ภายในช่องเก็บของด้านหน้าเหนือศีรษะคนขับก่อนตรวจค้น เจ้าหน้าที่ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจจนผู้ต้องหาเกิดความเชื่อมั่น จากนั้นจึงดำเนินการตรวจค้น พบอาวุธปืนพกสั้นออโตเมติก ขนาด 9 มม. อยู่ในกระเป๋าสะพายสีดำ และพบซองกระสุนพร้อมเครื่องกระสุนจำนวน 5 นัด อยู่ในช่องกระเป๋าเล็ก ภายในช่องเก็บของดังกล่าว
สอบถามนายสุรวัชฯให้การรับสารภาพว่าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนดังกล่าวเป็นของตนเอง โดยพกติดตัวเพื่อป้องกันตัว และยอมรับว่าไม่เคยได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนจากนายทะเบียนมาก่อนเจ้าหน้าที่จึงแจ้งสิทธิตามกฎหมายและแจ้งข้อกล่าวหา คือ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และไม่มีเหตุจำเป็นอันสมควรนายสุรวัชรับทราบและเข้าใจข้อกล่าวหาตลอด พร้อมให้การรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพ
