“กดดันถึงขีดสุด! ไทยชะลอสันติภาพ–ไม่ส่งเชลยศึก แม่ทัพกุ้ง ชี้เป็น ‘สัญญาณตอบโต้’ หลังทหารเหยียบระเบิดต่อเนื่อง

376

“แม่ทัพกุ้ง” ระบุการระงับปฏิญญาสันติภาพไทยกัมพูชา-ไม่ส่งเชลยศึก ’เหมาะสมแล้ว‘ หลังทหารไทยเหยียบระเบิดเสียขาที่ 7 มองเหตุที่ จ.สระแก้ว เป็นการสร้างสถานการณ์กลบข่าวทหารเหยียบระเบิด พร้อมเตือนมีนัยยะโยงไปที่ปราสาทตาควาย

พล.ท.บุญสิน พาดกลาง ที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ความตึงเครียดในพื้นที่ชายแดนหลังจากที่ทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดเป็นรายที่ 7 ว่า ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องที่ท่านนายกรัฐมนตรีได้พูดไปแล้ว ส่วนเชลยศึกทั้ง 18 ราย ยังไม่ได้ปล่อยถือเป็นการตอบโต้ในขั้นตนที่ชัดเจน โดยนายกรัฐมนตรีได้กําชับฝ่ายความมั่นคงให้ดําเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องไปแล้ว ฝ่ายความมั่นคงและเหล่าทัพต่างๆคงได้เตรียมการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามสมควร

เมื่อถามว่าเห็นด้วยหรือไม่กับการระงับปฏิญญาสันติภาพไทย-กัมพูชา พลโท บุญสิน บอกว่า เหมาะสมแล้วเนื่องจากกําลังพลของไทยได้รับความสูญเสีย จึงต้องมีการแสดงออกถึงความไม่พอใจในส่วนที่ลูกน้องถูกกระทํา จึงต้องมีการตอบโต้อย่างใดอย่างหนึ่งอยู่แล้วไม่ใช่แค่เพียงการประท้วงผ่านเอกสาร

หากมีขาที่ 8 จะสามารถยิงไปยังฐานปฏิบัติการที่รับผิดชอบในฝั่งกัมพูชาได้เลยหรือไม่ พลโท บุญสิน กล่าวว่า การตอบโต้ตนเองคิดว่าทางแม่ทัพและผู้บัญชาการทหารบกได้ให้แนวทางการปฏิบัติไปแล้ว ซึ่งการเหยียบกับระเบิดต้องดูว่าไปเหยียบที่ไหน เป็นระเบิดเก่าหรือระเบิดใหม่และอยู่ในเขตอธิปไตย มีฐานข้าศึกหรือทหารเขมรอยู่ที่นั่นหรือไม่และเขาวางไว้นานหรือยังสมควรแก่เหตุหรือมไม่

เบื้องต้นดูจากแนวทางนโยบายของท่านนายกรัฐมนตรี แสดงออกถึงความไม่พอใจที่ทหารเขมรวางกับระเบิดน่าจะตึงเครียดอยู่พอสมควร แต่คงรอว่าสถานกาณ์จะคลี่คลายหรือไม่อย่างไร หากดูตอนนี้พบว่ายังมีเหตุที่กัมพูชาอ้างว่าทหารไทยไปยิงพลเรือนเขมร อาจเป็นเกมการสร้างสถานการณ์เพื่อเบี่ยงเบนประเด็นทหารไทยไปเหยียบเข้ากับระเบิด

เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะมีการยั่วยุจากฝั่งกัมพูชาอีกหรือไม่ พลโท บุญสิน บอกว่า มีนัยยะพอสมควรและต้องดูเจตนารมณ์ของผู้นําเขาว่าวัตถุประสงค์ที่เขาต้องการคืออะไร เช่น เหตุการณ์ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว ซึ่งน่าจะมีนัยยะพอสมควร

ส่วนจะลุกลามไปจนถึงเหตุการปะทะเหมือนในพื้นที่ภาคที่ 2 หรือไม่นั้น พลโท บุญสิน ระบุว่า เป็นนโยบายประเทศเดียวกัน ส่วนตัวคิดว่ามีความเชื่อมโยงสถานการณ์ซึ่งกันและกันรวมถึงอาจมีการโยงความสนใจไปที่ปราสาทตาควายอีกด้วย เพราะฉะนั้นการมี่รัฐบาลออกมาตอบโต้ในเรื่องของการงดปล่อยตัวเชลยศึกทั้ง 18 คน และการประณามต่างๆ คิดว่าถูกต้องแล้ว

เมื่อถามถึงกรณีที่คนกลางอย่างมาเลเซียพยายามที่จะให้ไทยและกัมพูชากลับมาเจรจากันอีกครั้ง พลโท บุญสิน กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งรัฐบาลก็ต้องเข้มแข็งด้วย เพราะประชาชนส่วนใหญ่ก็อยากให้รัฐบาลไทยเข้มแข็งในระดับหนึ่ง เนื่องจากเป็นประเทศที่ใหญ่กว่า บางสิ่งบางอย่างก็นำมาซึ่งผลประโยชน์ของประเทศชาติ

ทั้งนี้ การที่ไทยไม่ปล่อยตัวเชลยศึกทั้ง 18 คน จะเป็นข้อต่อรองที่มีผลดีหรือไม่ดีกับไทยอย่างไร พลโท บุญสิน ระบุว่า เป็นการแสดงออกซึ่งความไม่พอใจของไทย เพราะการกระทำดังกล่าวส่งผลให้ลูกน้องเสียขาถือเป็นเหตุรุนแรงซึ่งก็ถือว่าสมเหตุสมผล แม้จะกระทบต่อการเจรจาพอสมควร แต่ก็มีหนทางที่จะต้องคลี่คลายกันได้ ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์และความต้องการของผู้นำเขมรด้วย ส่วนไทยเราพร้อมอยู่แล้วในการที่จะเจรจาเพื่อสันติ ซึ่งก็ต้องดูสถานการณ์ตามห้วงเวลาด้วย