อดีตรอง ผบ.ตร. ชี้ดราม่า “องค์กรตำรวจคือองค์กรอาชญากรรมระดับประเทศ” สะเทือนวงการตำรวจครั้งใหญ่ วอนแฟนคลับใช้สติ รอผลการพิจารณาจากป.ป.ช.และศาล ยันการดำเนินการทุกขั้นตอนโปร่งใส ตรวจสอบได้ ไม่ใช่การกลั่นแกล้งใคร

พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ผู้ทรงคุณวุฒิ ให้สัมภาษณ์ในรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ออกมาเปิดประเด็นว่ากองบัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็น “องค์กรอาชญากรรมระดับประเทศ” จนสร้างแรงสั่นสะเทือนในสังคม พร้อมมีกลุ่มผู้ติดตามทั้งสองฝ่ายแสดงท่าทีตอบโต้กันอย่างเข้มข้น
พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า ตลอดเส้นทางประวัติศาสตร์ตำรวจไทย ไม่เคยมีเหตุการณ์ที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และอดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมาโต้แย้งกันแบบมีฐานแฟนคลับสนับสนุนจำนวนมากเช่นครั้งนี้ จึงอยากให้ประชาชนฟังข้อมูล “ทุกฝ่าย” และไม่ด่วนตัดสินล่วงหน้า
“ในฐานะนักกฎหมาย ขอให้รอองค์กรกลางตัดสินก่อนว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ผิดหรือไม่ ซึ่งเป็นอำนาจของ ป.ป.ช. และศาลคดีอาญา ส่วนเรื่องวินัยก็อยู่ที่ศาลปกครองสูงสุด เราทุกคนอยู่ภายใต้กติกา ไม่มีใครไปเปลี่ยนคำวินิจฉัยได้”พร้อมย้ำว่า ไม่ว่าจะผลออกมาเช่นไร หากในที่สุด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ชนะคดี ก็สามารถดำเนินการฟ้องกลับผู้กล่าวหา รวมถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ตามสิทธิทางกฎหมายเช่นกัน ดังนั้นขอให้สังคม “ใจเย็น” และเชื่อมั่นในกระบวนการสอบสวนที่โปร่งใส
พล.ต.อ.เอก ระบุอีกว่า ในฐานะ ก.ตร. กล้ายืนยันว่ากระบวนการตรวจสอบต่างๆ มีการตรวจสอบอย่างรอบคอบ “ไม่ใช่การหลับหูหลับตาทำ” พร้อมชี้ว่าความขัดแย้งในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เพราะกระทบต่อศรัทธาของสังคมต่อองค์กรตำรวจโดยตรง
ในช่วงหนึ่งของการให้สัมภาษณ์ พล.ต.อ.เอก ได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ส่วนตัวกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ว่ามีสายสัมพันธ์ที่ดีมาตั้งแต่รุ่นพ่อ
“พ่อของเขาเป็นนายดาบที่ผมนับถือ เรียกผมว่า ‘อาเอก’ ผมรักและเอ็นดูเหมือนน้อง แต่วันนี้เหมือน ‘กินในที่ลับ แล้วมาพูดในที่แจ้ง’ ซึ่งมันไม่ใช่ความเป็นสุภาพบุรุษ”
ทั้งนี้ พล.ต.อ.เอก ทิ้งท้ายว่า ตำรวจเป็นอาชีพที่ “ต้นทุนต่ำ แต่ความเจ็บปวดสูง” เพราะมักถูกสังคมตำหนิและไม่ค่อยได้รับความรัก แต่เขายืนยันด้วยความสุจริตใจว่า ตนไม่เคยรับเงินสินบนตามที่เคยถูกตั้งข้อกล่าวหา และขอให้ทุกฝ่ายเคารพการวินิจฉัยของศาล ซึ่งเป็นที่สุดของข้อพิพาท

