ปัตตานี, วันที่ 31 ต.ค. – โครงการ “ทำดี 100 วัน” เพื่อถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง “แม่ของแผ่นดิน” โดยสมาคมสื่อมวลชนเพื่อพัฒนาชายแดนภาคใต้ (JSD-South) ร่วมกับภาคเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ทำกิจกรรมสาธารณกุศลโดยมีกลุ่มเป้าหมายคือกลุ่มคนเปราะบาง ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา เข้าสู่วันที่ 6 โดยนางสาวนาซือเราะ เจะฮะ นายกสมาคม กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้รับความร่วมมืออย่างดีเยี่ยมจากทั้งหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และ นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร เลขาธิการ ศอ.บต. ที่ให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง
นายกสมาคม JSD-South กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมในวันนี้ทีมงานได้ร่วมกันจัดเลี้ยง “ข้าวหมกไก่” และ มอบถุงยังชีพ ให้กับกลุ่มเปราะบาง ทั้งนี้การช่วยเหลือไม่ได้จำกัดอยู่แค่การมอบอาหารและถุงยังชีพเท่านั้น แต่ยังมีการดำเนินการในมิติอื่น ๆ อาทิ การมอบอิฐ สำหรับสร้างและซ่อมแซมบ้านเรือนให้กับผู้ยากไร้ มอบสิ่งของและอุปกรณ์ที่จำเป็น ให้กับผู้ป่วยติดเตียง เลี้ยงอาหาร และ มอบข้าวสารอาหารแห้ง โดยกำหนดเป้าหมายไว้ที่ วันละ 100 ชุด จำนวน 100 วัน และการร่วมกันพัฒนาพื้นที่ เพื่อสร้างความสามัคคีภายในชุมชน
นอกจากกิจกรรมภาคสนามแล้ว โครงการยังได้ขยายผลสู่ภาคการศึกษา โดยมีเป้าหมาย โรงเรียนกว่า 100 สถาบัน เข้าร่วมการประกวดกิจกรรม “ทำดี 100 วันเพื่อแม่ของแผ่นดิน” โดยนักเรียนจากทั้ง 100 สถาบันนี้ จะเข้าร่วมการประกวดเรียงความ เพื่อชิงรางวัลจากผู้ใหญ่ใจดี โดยสมาคมสื่อมวลชนฯ ได้กำหนดจัด พิธีมอบรางวัลดังกล่าวในวันนักข่าว ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนมีนาคม 2569
ทั้งนี้นางสาวนาซือเราะ กล่าวเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมทำความดีในโครงการ “ทำดี 100 วัน” เพื่อ ‘แม่ของแผ่นดิน’ อย่างต่อเนื่อง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและสร้างสรรค์สังคมชายแดนภาคใต้ให้ดีขึ้น
ด้านนางสาวรอกาฮา กามา ครูจากโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดยะลา ซึ่งเป็นหนึ่งในสถาบันที่เข้าร่วมกิจกรรม ได้กล่าวแสดงความชื่นชมต่อโครงการดังกล่าว โดยเฉพาะการเปิดพื้นที่ให้นักเรียนได้แสดงออกผ่านการประกวดเรียงความ ถือเป็นกิจกรรมที่ดีมาก ขอชื่นชมสมาคมฯ ที่เชิญชวนโรงเรียนในพื้นที่ โดยเฉพาะโรงเรียนชนบทที่อยู่ห่างไกลตัวเมือง อย่างโรงเรียนของตน ซึ่งถือเป็นโอกาสให้นักเรียนร่วมทำความดีแล้วยังให้โอกาสนักเรียนได้แสดงออกอีกด้วย และขอขอบคุณผู้ที่ให้การสนับสนุนกิจกรรมครั้งนี้ อันสะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจต่อการพัฒนาเยาวชนและการปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีงามในพื้นที่ชายแดนใต้
