วันที่ 30 ต.ค. 2568 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ตอบกระทู้ถามสดด้วยวาจา ของนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เรื่อง ปัญหาการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายภายในวัด เพราะมีวัดใน กทม.เจอปัญหาไม่มีเงินชำระค่าน้ำ ค่าไฟ จนถูกตัดมาตรวัดน้ำจากปัญหาวิกฤตพระสงฆ์ในปัจจุบัน รวมถึงมีมาตรการให้เจ้าหนี้ของวัด คือ การประปา การไฟฟ้า ไม่เร่งรัดตัดน้ำ ตัดไฟ หรือไม่ ว่า รัฐบาลตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว และจะรับเรื่องไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การประปานครหลวง และการไฟฟ้า เพื่อพิจารณามาตรการผ่อนปรน ไม่เร่งรัดการตัดน้ำตัดไฟวัด พร้อมเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีให้มีมติช่วยเหลือโดยเร็ว
ทั้งนี้ รัฐบาลได้หารือกับสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อดำเนินการช่วยเหลือวัดที่ประสบปัญหาผ่าน กองทุนวัดช่วยวัด และกองทุนศาสนสมบัติกลาง หากวัดใดเดือดร้อนเรื่องค่าน้ำ ค่าไฟ หรือค่าน้ำมันสำหรับการฌาปนกิจ สามารถติดต่อขอรับการสนับสนุนจากกองทุนดังกล่าวได้ และหากงบประมาณจากทั้ง 2 กองทุนไม่เพียงพอ รัฐบาลจะพิจารณาใช้งบกลางเพิ่มเติม
นายบวรศักดิ์ กล่าวอีกว่า การแก้ไขปัญหาศรัทธาของประชาชนด้วยการเอาเงินไปช่วยวัดควรทำเท่าที่จำเป็น พร้อมชี้ว่าปัญหาหลักของความเสื่อมศรัทธาเกิดจาก พฤติปฏิบัติที่ไม่เป็นไปตามพระวินัยของพระภิกษุ และสามเณร คนที่จะแก้ปัญหาความศรัทธานี้ได้ดีที่สุดคือ คณะสงฆ์และภิกษุ หรือพุทธจักรและพุทธบริษัท ต้องช่วยกัน โดยมาตรการของรัฐบาลในขณะนี้เป็นเพียงการช่วยเหลือระยะสั้น ส่วนระยะยาวต้องให้ “พุทธจักร” มีมาตรการป้องกันการเสื่อมศรัทธาจากพฤติกรรมของพระสงฆ์ที่ไม่เป็นไปตามพระวินัย ซึ่งเป็นรากเหง้าของปัญหา โดยขณะนี้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาแนวทางแก้ไข รวมถึงอาจกำหนดคุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามของไวยาวัจกรและกรรมการวัด เพื่อสร้างความโปร่งใสในการบริหารจัดการ
ทั้งนี้ นายชวนเห็นด้วยว่า พุทธบริษัทเป็นส่วนค้ำจุนศาสนาเมื่อพระปฏิบัติดี แต่ปัจจุบันพฤติกรรมของพระบางรูปกำลังทำลายความน่าเชื่อถือ และมีผลกระทบไปถึงพระอีก 2 แสนรูป ทำให้ผู้สูงอายุบางรายต้องแอบทำบุญ เพราะลูกหลานไม่ยอมให้ทำบุญ โดยขอทราบแนวทางรณรงค์ให้ชาวพุทธแยกแยะระหว่างพระดีพระร้าย เพื่อไม่ให้พระร้ายทำร้ายพระดี รวมถึงแนวคิดให้โรงเรียนช่วยชี้นำเยาวชน ต่อเรื่องศาสนาหรือไม่
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะรับไปหารือกับคนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงอินฟลูเอนเซอร์ เพื่อรณรงค์ต่อไป ซึ่งพระไม่ดีจำนวนนน้อย ไม่ควรทำให้คนส่วนใหญ่เสื่อมศรัทธนา ส่วนประเด็นเรื่องโรงเรียนนั้น จะนำไปปรึกษากับ รมว.ศึกษาฯ ทั้งนี้ วิชาหน้าที่พลเมืองและศีลธรรมที่นำออกไป มีข่าวซึ่งไม่ยืนยันว่านำคืนมาแล้ว เหมือนวิชาประวัติศาสตร์ ที่สมเด็จพระพันปีหลวงบอกว่า ชาติไหนๆ เขาก็เรียน แต่ทำไมเมืองไทยถึงเอาออก ทราบว่ากระทรวงศึกษาเอากลับมาแล้ว

