“มูลนิธิกระจกเงา” ยื่นหนังสือถึง ผบ.ตร. เร่งช่วยคนไทยถูกหลอกข้ามแดน ทำงานแก๊งสแกมเมอร์ — เหยื่อพุ่ง 119 ราย เด็กอายุต่ำสุดแค่ 15 ปี

592

สถานการณ์ “คนหายถูกล่อลวงไปต่างแดน” พุ่งต่อเนื่อง มูลนิธิกระจกเงาเผยปี 2568 มีเหยื่อถูกหลอกไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์–บัญชีม้า–สแกมเมอร์กว่า 119 ราย ทั้งเยาวชนและผู้สูงอายุ ล่าสุดยื่นหนังสือถึงคณะอนุกรรมการฯ ที่นายกรัฐมนตรีตั้ง เพื่อเร่งช่วยเหลือเหยื่อไทยในประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมเตือน “ค้ามนุษย์ยุคใหม่” ไม่ต้องล่ามโซ่แต่ล่อลวงผ่านโลกออนไลน์ ควบคุมเสรีภาพอย่างแนบเนียน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย


สืบเนื่องจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามแต่งตั้ง”คณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี” ตามคำสั่งสำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 341/2568 โดยมี พล.ต.อ.กิตตี้รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ร่วมเป็นคณะกรรมการ โดยมี พล.ต.อ.ธนา ชวงศ์ รอง ผบ.ตร./ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศปอสเตร.), พล.ด.ทเจ็รภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ตร. และพล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองจเรล่าวจแห่งชาติ/รอง ผอ.ศปอส.ตร. ร่วมขับเคลื่อนการทำงางาน เพื่อยกระดับการปราบปรามการกระทำความผิดเกียวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่มีความซับซ้อน รูปแบบหลากหลาย และเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

วันนี้ (27ตค68) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มูลนิธิกระจกเงา ได้มายื่นหนังสือ ต่อ พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ รองจเรตำรวจแห่งชาติ และประธานอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ป้องกันการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งแต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรี

สืบเนื่องจาก ปัญหาสถานการณ์ คนหายที่ถูกล่อลวง สู่อาชญากรรมข้ามชาติ ที่เชื่อมโยงกับขบวนการสแกมเมอร์ บัญชีม้า และการค้ามนุษย์ยุคใหม่ โดยตลอดปี 2568 มูลนิธิกระจกเงา รับแจ้งคนหายที่ถูกพาไปเป็นสแกมเมอร์ ยังประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งเปิดบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งหลอกให้ลงทุน กว่า 119 ราย อายุเฉลี่ย 26 ปี โดยในจำนวนนี้เป็นชาย 73 ราย หญิง 46 ราย รวมทั้งมีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีถึง 18 ราย อายุน้อยสุดเพียง 15 ปีและผู้สูงอายุอายุมากสุด 65 ปี

นางสาวกนกวรรณ พูลเพิ่ม รองหัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา กล่าวว่า สถานการณ์ตอนนี้แม้มีการปิดชายแดนกัมพูชาแต่ยังมีการหลั่งไหลไปของคนไทยที่ถูกหลอกชักชวนไปทำงาน เมื่อข้ามแดนไปแล้วถูกกักขังในสถานที่ปิด ยากที่จะหลบหนี หากไม่ยอมทำงานอาจไม่ปลอดภัยหรือถูกส่งไปที่อื่น การขาดเสรีภาพเช่นนี้ คือ การบังคับใช้แรงงานโดยสภาพ

นี่คือ การค้ามนุษย์ยุคใหม่ ที่ไม่ต้องใช้การล่ามโซ่ เฆี่ยนตี เป็น “ช่องเทา” ที่บังคับและควบคุมเสรีภาพอย่างแนบเนียนให้ไปทำสิ่งผิดกฎหมาย หลอกลวงคนอื่นอีกทอด ซึ่งเป็นอาชญากรรมข้ามชาติ โดยขณะนี้มีคนหายที่มูลนิธิกระจกเงา รับแจ้งเหตุ อีก 25 รายที่ยังไม่ได้กลับประเทศไทย และกำลังรอความช่วยเหลือ

โดยในวันนี้ได้ ได้ยื่นหนังสือให้ทางคณะอนุกรรมการฯ ได้ทราบข้อเท็จจริงและติดตามกรณีเด็กหญิง 16 ปี ถูกชักชวนให้ทำงานในโลกออนไลน์ แต่ถูกหลอกพาไปทำงานสแกมเมอร์ยังประเทศเพื่อนบ้าน

ด้าน นางสาวศิริพร ติวสร้อย หัวหน้าเวรรับแจ้งเหตุคนหาย มูลนิธิกระจกเงา กล่าวว่า มูลนิธิกระจกเงา ได้รับการร้องทุกข์จาก มารดาของเด็กหญิงฟ้า (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ซึ่งลูกสาวหายตัวไป จากการที่เด็ก เห็นประกาศรับสมัครงานในโลกออนไลน์เป็นงานแพคสินค้า โดยมีโรงงานอยู่ที่ จ.สระแก้ว จึงได้ไปทำงานกับแฟน อายุ 22 ปี ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2568 ต่อมาเด็กได้โทรมาขอความช่วยเหลือ บอกว่าถูกหลอกมาทำงานที่ประเทศกัมพูชา มารดาจึงไปแจ้งความลูกหายที่ สภ ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และแจ้งเรื่องมายังมูลนิธิกระจกเงา โดยมารดาแจ้งว่า น้องฟ้าโทรมาร้องไห้ ขอความช่วยเหลือแต่ยังบอกสถานที่ทำงานไม่ชัดเจน และไม่รู้ว่าเด็กหายจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร โดยล่าสุดที่ติดต่ดได้ เด็กแจ้งว่าหากจะกลับประเทศไทย ครอบครัวต้องโอนเงินค่าไถ่ตัวเป็นจำนวน 60,000 บาท

นางสาวกนกวรรณ พูลเพิ่ม รองหัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา กล่าวทิ้งท้ายว่า อยากให้ อนุกรรมการประชาสัมพันธ์ป้องกันการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ช่วยติดตามคนไทยที่ยังติดอยู่ในแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติกลับมายังประเทศไทย และขอให้เร่งทำการประชาสัมพันธ์ให้คนหางาน ได้รู้เท่าทันประกาศในโลกออนไลน์ที่มีนายหน้าไปโพสต์รับสมัครงาน แต่ท้ายสุดถูกหลอกพาไปทำงานแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ โดยควรบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มนายหน้าหลอกคนซึ่งน่าจะก่อเหตุอยู่ภายในประเทศด้วย