สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) รายงานสถานการณ์น้ำทั่วประเทศ 17 ต.ค. 68 พบ 4 เขื่อนใหญ่ลุ่มเจ้าพระยาอัดแน่นเกินความจุ 90% ขณะที่เขื่อนแควน้อยบำรุงแดนล้นทะลุ 101% เตือนพื้นที่ท้ายเขื่อนและลุ่มเจ้าพระยาเฝ้าระวังใกล้ชิด ส่วนภาคใต้เตรียมรับมือฝนตกหนักระลอกใหม่ช่วง 18–21 ต.ค.
วันที่ 17 ตุลาคม 2568 สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) สรุปสถานการณ์น้ำทั่วประเทศ พบว่า ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำรวมอยู่ที่ 86% ของความจุเก็บกัก (69,484 ล้านลูกบาศก์เมตร) โดยมีปริมาณน้ำใช้การได้ 78% หรือประมาณ 45,469 ล้านลูกบาศก์เมตร
สำหรับลุ่มน้ำเจ้าพระยา พบว่า 4 เขื่อนหลักมีปริมาณน้ำเกิน 90% ของความจุทั้งหมด ได้แก่ เขื่อนภูมิพล จ.ตาก ปริมาตรน้ำ 12,509 ล้าน ลบ.ม. (93%) เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ ปริมาตรน้ำ 9,223 ล้าน ลบ.ม. (97%), เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก ปริมาตรน้ำ 946 ล้าน ลบ.ม. (101%)และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี ปริมาตรน้ำ 869 ล้าน ลบ.ม. (91%)
ขณะเดียวกัน เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท รายงานการระบายน้ำอยู่ที่ 2,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อนอยู่ที่ +16.810 ม.รทก. และท้ายเขื่อน +15.700 ม.รทก. ส่วนสถานี C.2 จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,776 ลบ.ม.ต่อวินาที ต่ำกว่าตลิ่ง 1.24 เมตร
ในส่วนของ แม่น้ำมูล สถานี M.7 จ.อุบลราชธานี มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 3,160 ลบ.ม.ต่อวินาที สูงกว่าระดับตลิ่ง 1.5 เมตร แต่ยังต่ำกว่าคันเสริมตลิ่งชั่วคราวเล็กน้อย
สำหรับสถานการณ์อุทกภัย ล่าสุดพบว่ามี 15 จังหวัด 75 อำเภอ ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคอีสานตอนล่าง เช่น สุโขทัย พิจิตร นครสวรรค์ อุบลราชธานี ชัยนาท สิงห์บุรี และพระนครศรีอยุธยา
ด้านสภาพอากาศวันนี้ สทนช. ระบุว่า ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ยังพัดปกคลุมประเทศไทย อ่าวไทย และทะเลอันดามัน ทำให้หลายพื้นที่ยังมีฝนฟ้าคะนอง ขณะที่ช่วงวันที่ 18–21 ตุลาคม 2568 คาดว่า “ร่องมรสุม” จะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคใต้ ส่งผลให้มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนพื้นที่ตอนบนของประเทศฝนจะลดลงแต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองประปราย
สทนช. ขอให้ประชาชนติดตามประกาศเตือนภัยและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำและท้ายเขื่อน เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือหากมีน้ำหลากเพิ่มเติมในระยะนี้
