ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) วัน 1 ต.ค. – นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (รมช.มท.) เดินทางมามอบนโยบาย และตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของ ปภ.โดยย้ำให้ ทำงานบนหลัก “เร็ว รุก บุกถึงที่ เมื่อมีภัย” การช่วยเหลือเยียวยาต้องรวดเร็ว โดยมีนายเชษฐา โมสิกรัตน์ อธิบดี ปภ. นางสาวชัชดาพร บุญพีระณัช นายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ นายชัยรัตน์ แก้วเพียงเพ็ญ รองอธิบดี ผู้อำนวยการสำนัก/กองส่วนกลาง ผอ.ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และจังหวัด สาขา ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ ปภ. เข้าร่วมประชุมรับมอบนโยบาย และประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

นายศักดิ์ดา กล่าวว่า สาธารณภัยในปัจจุบันมีความรุนแรงและเกิดขึ้นบ่อยครั้ง สร้างควาวมสูญเสียและส่งผลกระทบโดยตรงต่อความปลอดภัยของประชาชน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นหน่วยงานหลักในการดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนเมื่อเกิดสาธารณภัยขึ้น จึงจำเป็นต้องมีการยกระดับและเสริมประสิทธิภาพการบริหารจัดการสาธารณภัยให้พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ภัยที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ที่ต้องการให้ประชาชนปลอดภัยจากสาธารณภัย และได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐอย่างรวดเร็วที่สุด และเหมาะสมกับสถานการณ์
เมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้น หน่วยงาน ปภ. จะต้องเข้าถึงพื้นที่ บริหารจัดการภัยและให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยอย่างเป็นระบบ รวมถึงวางแผนและบริหารจัดการทรัพยากรเครื่องจักรกลสาธารณภัย เครื่องมืออุปกรณ์ต่าง ๆ และกำลังเจ้าหน้าที่ให้มีความพร้อมและเพียงพอสำหรับออกปฏิบัติการให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทั่วถึงและทันท่วงที ตามหลักการทำงาน “เร็ว รุก บุกถึงที่ เมื่อมีภัย” และเมื่อสถานการณ์ภัยคลี่คลาย ปภ. ต้องเร่งประสานพื้นที่เข้าทำการสำรวจพื้นที่ประสบภัย เพื่อจะได้เข้าสู่กระบวนการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยตามระเบียบหลักเกณฑ์ และการจ่ายเงินช่วยเหลือประชาชนจากรัฐบาลต้องมีความรวดเร็ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และให้หน่วยงานรายงานผลการปฏิบัติงานต่อผู้บังคับบัญชาแต่ละระดับเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถวางแผนการทำงานเชิงรุกไว้ล่วงหน้า

“อีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญในการบริหารราชการ คือ การบริหารงบประมาณและการจัดทำแผนงานโครงการที่ต้องมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์ต่อประชาชน เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ควบคู่ไปกับการบริหารงานบุคลากรที่เป็นธรรม โดยการสนับสนุนบุคลากรให้มีความรู้ ความสามารถ และมีทักษะในการทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บุคลากรมีกำลังใจและมีความตั้งใจในการทำงาน ซึ่งจะทำให้การทำงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่ต้องดูแลประชาชนเป็นไปอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” รมช.มหาดไทยกล่าว

