“ศอ.บต.” ยัน ปราบยา-สกัดกระท่อม ต้องทำต่อเนื่อง! พร้อมรักษาพลังชุมชนร่วมแก้ปัญหา เดินหน้าเก็บตกหมู่บ้านเป้าหมายให้ครบ

1010

ยะลา, วันที่ 1 ต.ค. – หลังจากที่การขับเคลื่อนตามนโยบาย “120 วัน วาระพืชกระท่อม” สิ้นสุดลงเมื่อวานนี้ พ.ต.ท. วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ยืนยันว่าการแก้ไขปัญหายาเสพติดจะต้องทำอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับการพัฒนาพื้นที่มิติต่าง ๆ “การแก้ปัญหายาเสพติดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ใช่นโยบาย แต่มันคือสิ่งที่จะต้องทำ” โดยเฉพาะอย่างยิ่งการควบคุมพืชกระท่อม ที่ถูกยกระดับเป็นปัญหาในระดับครอบครัวและชุมชน ท่ามกลางกระแสพลังภาคประชาชนที่ลุกขึ้นมาต่อสู้

พ.ต.ท. วรรณพงษ์ ได้แสดงความพอใจต่อผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการขับเคลื่อนงานในวาระ “120 วัน วาระพืชกระท่อม” โดยระบุว่า “พลังที่เกิดขึ้นจะต้องรักษาไว้” พร้อมเน้นย้ำถึงกลไกการทำงานที่จะต้องเข้าถึงกว่า 600 หมู่บ้านที่เป็นเป้าหมาย และไม่ใช่แค่ทำในปีนี้หรือปีหน้าเท่านั้น การรณรงค์ยังคงมุ่งเน้นเรื่อง “การใช้พืชกระท่อมในทางที่ผิด” และนโยบาย “ถนนต้องไม่มีขาย” ไม่ว่าจะเป็นเส้นหลักหรือเส้นรอง ซึ่งจะต้องมีการกระชับพื้นที่เรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม พืชกระท่อมอาจใช้เป็นสมุนไพรในเชิงการแพทย์ได้ แต่ต้องป้องกันและต่อต้านไม่ให้ถูกนำมาใช้ในทางที่ผิด

เลขาศอ.บต. กล่าวถึงแผนงานในปีต่อไป ว่ามีภารกิจสำคัญ 2 ประการ คือ การเก็บตกในพื้นที่ที่ยังไปไม่ถึงจุดเป้าหมาย และรักษาสิ่งที่เราทำมาให้ยังเข้มแข็งอยู่ จนกว่าสังคมจะเห็นว่าตัวเองเข้มแข็งพอ “การรักษาแชมป์ ยากกว่า” แม้จะพึงพอใจในสิ่งที่ได้ทำ แต่ยังเชื่อว่าผลของมันสามารถทำได้มากกว่านี้ โดยมองว่าผลสำรวจความพึงพอใจเป็นเพียงการสะท้อนแนวทางการทำงานว่ามาถูกทางหรือไม่ และนำมาปรับปรุงแก้ไข แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ สิ่งที่ทำนั้นยังคงอยู่แค่ไหน

ทั้งนี้ ศอ.บต. เห็นภาพที่ชัดเจนว่า ภาคประชาชนให้ความสำคัญและมีเสียงเรียกร้องที่มีพลังมาก โดยมองปัญหาเรื่องพืชกระท่อมเป็น “ปัญหาในระดับฐานราก” คือ “ปัญหาในระดับครอบครัว” หากร่วมกันแก้ไขปัญหานี้ได้ เชื่อว่าจะนำไปสู่การแก้ปัญหาอื่น ๆ ในสังคมได้มากขึ้น “พลังที่เกิดขึ้นจากประชาชนนั้นผมว่าสำคัญ ภาครัฐเองก็ต้องตระหนักแล้วว่า ถ้ากิจกรรมเช่นนี้ชาวบ้าน หรือประชาชนตั้งแต่ครอบครัวชุมชนหมู่บ้านตำบลลุกขึ้นมาต่อสู้ ภาครัฐเราคงทำนิ่งเฉยไม่ได้” เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าว

พ.ต.ท. วรรณพงษ์ ยืนยันว่า ศอ.บต. ยังได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในการออกข้อกำหนดต่าง ๆ เพื่อไม่ให้พืชกระท่อมอยู่ในพื้นที่เสี่ยง เช่น ไม่ใกล้โรงเรียน หรือไม่ใกล้ชุมชน ซึ่งจะช่วยให้การแก้ไขปัญหามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดย ศอ.บต. ได้มีการออกแบบกลไกต่าง ๆ เพื่อมาสนับสนุนกิจกรรมของภาคประชาชนให้เกิดความต่อเนื่องในการป้องกัน  การขับเคลื่อนงานจะยังคงยึดแนวทางเดิมคือ การพัฒนาควบคู่กับการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือ การทำให้ชุมชนเข้มแข็งและไม่หวนกลับไปสู่ปัญหาเดิมอีก