กรุงเทพฯ, 29 กันยายน – สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ร่วมกับสถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา (IFD) จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการนานาชาติ “Strategic International Partnership to Promote Halal Economy for Sustainable Economic Development” เสริมสร้างความร่วมมือด้านสินค้าอุตสาหกรรมและบริการฮาลาล และความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ฮาลาลระหว่างไทยกับต่างประเทศ โดย นายภาสกร ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ สศอ. กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นที่ โรงแรมอัล มีรอซ กรุงเทพ และศึกษาดูงาน ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อสร้างเครือข่าย รวมถึงสร้างความร่วมมือด้านสินค้าอุตสาหกรรมและบริการฮาลาล และโอกาสในการนำเสนอตำรับอาหารไทยตามหลักฮาลาล โรงแรมที่พักและสถานที่จัดการประชุมที่ได้มาตรฐานฮาลาล แสดงถึงศักยภาพของไทยในการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมและบริการฮาลาลที่ครบวงจร โดยมีผู้เข้าร่วม 40 ราย จากอินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ คาซัคสถาน ซาอุดีอาระเบีย โอมาน และไทย

การประชุมเชิงปฏิบัติการดังกล่าว เป็นการเสริมสร้างเครือข่ายระหว่าง สศอ. กับประเทศหุ้นส่วน โดยนายภาสกร ได้แลกเปลี่ยนนโยบาย และมุมมองร่วมกับผู้บริหารและผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ ขณะที่นายภัทรพล ลิ้มภักดี รองผู้อำนวยการ สศอ. ได้กล่าวถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมฮาลาลทั้งในด้านเศรษฐกิจและจำนวนประชากร โดยรัฐบาลไทยได้เล็งเห็นถึงโอกาสและศักยภาพดังกล่าว จึงมีการจัดทำ (ร่าง) แผนปฏิบัติการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทย ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2567 – 2571) พร้อมกำหนดสาขาสินค้าและบริการเป้าหมาย อีกทั้งเวทีในการหารือแลกเปลี่ยนนโยบาย มาตรการ กลยุทธ์ โครงการ และกิจกรรมระหว่างประเทศ เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมและบริการฮาลาลต่อไป
กิจกรรมหลักของงาน ประกอบด้วย 1) การประเมินสภาพแวดล้อมภายใน และภายนอกของอุตสาหกรรมฮาลาล และการระบุประเด็นยุทธศาสตร์ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้แสดงความคิดเห็นในด้านปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมที่ส่งผลต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาล ทั้งสภาพแวดล้อมในระดับโลก ภูมิภาค และประเทศ 2) การพัฒนาและประเมินทางเลือกยุทธศาสตร์ เพื่อการพัฒนามาตรฐานฮาลาลที่สอดคล้องกัน ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศ และการจัดทำมาตรฐานระหว่างภาครัฐและเอกชน ผ่านใช้แนวทางค่อยเป็นค่อยไป และ 3) การจัดทำแผนที่นำทางและแผนปฏิบัติการ ระยะ 5 ปี เพื่อสร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมฮาลาลที่แข็งแกร่ง เชื่อมโยงกัน และสามารถแข่งขันได้ในระดับโลก ผ่านความร่วมมือระหว่างประเทศเชิงกลยุทธ์อย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ฝ่ายไทยได้นำเสนอแลกเปลี่ยนร่างข้อริเริ่มในการสร้างความร่วมมือระหว่างไทยกับประเทศหุ้นส่วนเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาล ซึ่งออกแบบให้มีลักษณะเนื้อหาในภาพกว้างและเป็นสากล โดยไม่จำกัดประเทศหรือหน่วยงาน เพื่อเป็นโอกาสในการต่อยอดความร่วมมือระหว่าง สศอ. หรือกับหน่วยงานอื่น ๆ ของไทย ขณะเดียวกันมีการศึกษาดูงาน ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาลแห่งแรกของโลก ในการใช้เครื่องมือและหลักการทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์ความเป็นฮาลาล โดยเฉพาะการตรวจหาดีเอ็นเอของสัตว์ต้องห้าม 8 ชนิด (HRMA) การปนเปื้อนเจลาตินและปริมาณแอลกอฮอล์ การวิจัยและพัฒนานวัตกรรม และการบ่มเพาะผู้ประกอบการฮาลาล เพื่อให้ผู้เข้าร่วมการประชุมได้เห็นถึงศัยภาพด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาลของไทย ซึ่งสนับสนุนการดำเนินตามแนวทาง “ศาสนารับรอง วิทยาศาสตร์รองรับ” ได้อย่างชัดเจน

“ไทยมีโอกาสในการเสริมสร้างความสัมพันธ์เพื่อการพัฒนาความร่วมมือด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมสาขาสินค้าอุตสาหกรรม และบริการฮาลาลที่สนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิต เช่น สาขาโลจิสติกส์ และวิทยาศาสตร์ฮาลาล ระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเทศหุ้นส่วนเชิงยุทธศาตร์ รวมถึงการใช้ศักยภาพด้านการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมในท้องถิ่น นำไปสู่การอุปโภคบริโภคอาหารและสินค้าอุตสาหกรรมฮาลาลอย่างยั่งยืน” นายภาสกร กล่าว

