กรุงเทพฯ, วันที่ 28 ก.ย. – นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (BDE) ในฐานะโฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ระหว่างวันที่ 19 – 25 กันยายน 2568 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 1,017,573 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 1,144 ข้อความ โดยมีข่าวที่ประชาชนให้ความสนใจสูงสุดอันดับที่ 1 เรื่อง “กระทรวงยุติธรรมเปิดลงทะเบียนรับเงินคืนจากมิจฉาชีพ ผ่านเพจเฟซบุ๊ก” รองลงมาคือเรื่อง “ปปง. เปิดลงทะเบียนยื่นหลักฐาน รับเงินคืนจากการหลอกลวงออนไลน์ ผ่านไลน์ กองกำกับและตรวจสอบ”
สำหรับช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากที่สุด คือ ข้อความที่มาจาก Social Listening จำนวน 1,090 ข้อความ ตามมาด้วยการแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official จำนวน 20 ข้อความ ช่องทาง Website จำนวน 33 ข้อความและช่องทาง Facebook จำนวน 1 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 280 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 110 เรื่อง โดยในจำนวนนี้เป็นข่าวปลอมเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ที่ได้รับความสนใจจากประชาชนมากที่สุด 10 อันดับ

นายเวทางค์ กล่าวว่า อันดับที่ 1 : กระทรวงยุติธรรมเปิดลงทะเบียนรับเงินคืนจากมิจฉาชีพ ผ่านเพจเฟซบุ๊กอันดับที่ 2 : ปปง. เปิดลงทะเบียนยื่นหลักฐาน รับเงินคืนจากการหลอกลวงออนไลน์ ผ่านไลน์ กองกำกับและตรวจสอบ อันดับที่ 3 : เจ้าหน้าที่จากธนาคารกรุงไทย โทรติดต่อหาประชาชนบังคับปิดบัญชี อันดับที่ 4 : กรมการจัดหางาน รับสมัครแรงงานไปทำงานต่างประเทศแบบถูกกฎหมาย ผ่านเพจ จัดหางานต่างประเทศ ขึ้นตรงกับกรมแรงงาน อันดับที่ 5 : ติดต่อทำธุรกรรมการเงินกับธนาคารกรุงไทยได้ผ่านไอดีไลน์ @763fkbed
อันดับที่ 6 : ธ.ออมสิน ปล่อยสินเชื่อ ผ่าน TikTok gsbmoney993 อันดับที่ 7 : เปิดจอง กองทุนทองคำฮั่วเซ่งเฮง ตัวเด่นในตลาด SET50 เริ่มต้น 1,000 ปันผล 320 ต่อวัน อันดับที่ 8 : OR เปิดให้ลงทุนหุ้นสามัญผ่านเพจ อเมซ่อน 0R Station Trading อันดับที่ 9 : กรมการขนส่งทางบก รับทำใบขับขี่เร่งด่วน ถูกกฎหมาย ผ่านเพจ Thai driving license service และ อันดับที่ 10 : ปปง. เปิดเพจเฟซบุ๊ก ไทยเหตุการณ์ คืนเงินให้เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์

“เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งประชาชนสนใจมากที่สุด จาก 10 อันดับข้างต้น พบว่าเป็นข่าวที่เกี่ยวกับการให้บริการของหน่วยงานรัฐ โดยเฉพาะการคืนเงินจากมิจฉาชีพในกับผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวง โครงการสินเชื่อธนาคารรัฐ และการชักชวนลงทุนหุ้นในหน่วยงานและองค์กรที่น่าเชื่อถือ ซึ่งมีผลกระทบต่อทั้งตัวบุคคลที่เชื่อและแชร์ข้อมูลส่งต่อกันไปเป็นวงกว้าง ทำให้ประชาชนอาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ สร้างความเสียหายทั้งทรัพย์สินและข้อมูลส่วนบุคคลได้” นายเวทางค์ กล่าว
นอกจากนี้กระทรวงดีอี ขอเตือนประชาชนว่าการให้ข้อมูลหรือติดตั้งแอปพลิเคชันใดๆ ที่ไม่ได้มาจากช่องทางอย่างเป็นทางการ อาจมีความเสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูล หรือเงินในบัญชีธนาคารได้ หากประชาชน พบข่าวน่าสงสัย ข้อมูลบิดเบือน สามารถแจ้งเบาะแส และตรวจสอบข่าวปลอมได้ที่ โทรสายด่วน 1111 ต่อ 87 (24 ชม.) หรือที่ เว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com | Line ID: @antifakenewscenter | Facebook : Anti-Fake News Center Thailand | X : @AFNCThailand | TikTok : @antifakenewscenter | IG : afnc_thailand/

