“อรรถกร” กำชับกรมชล เร่งโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ จ.เลย เพิ่มศักยภาพกักเก็บน้ำ สั่งสำรวจ-เยียวยาเกษตรกรด่วน หลังถูกพายุหนองฟ้าถล่ม

784

จังหวัดเลย, วันที่ 6 ก.ย. – นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เดินทางไปตรวจติดตามสถานการณ์ และตรวจความคืบหน้าโครงการชลประทาน รวมทั้งรับฟังรายงานสถานการณ์อุทกภัยและการช่วยเหลือ โดยได้พบปะเกษตรกร รับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะ รวมถึงมอบปัจจัยการผลิตด้านการเกษตร ณ เทศบาลตำบลนาอ้อ อ.เมือง จ.เลย โดยนายอรรถกร กล่าวว่า จ.เลย มีแหล่งน้ำที่สำคัญ ได้แก่ แม่น้ำเลย แม่น้ำพอง และห้วยน้ำหมาน ฤดูฝนมีปริมาณน้ำมาก แต่กักเก็บน้ำไว้ใช้ในปริมาณที่ค่อนข้างน้อย ส่งผลให้ขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง ก.เกษตรฯ โดยกรมชลประทาน จึงได้เร่งรัดโครงการพัฒนาแหล่งน้ำสำคัญในพื้นที่ อาทิ โครงการประตูระบายน้ำศรีสองรัก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่จะเพิ่มพื้นที่ชลประทาน 59,100 ไร่ รวมถึงผลักดันโครงการก่อสร้างฝายยางบ้านท่ามะนาว โดยมีแผนก่อสร้าง 3 ปี ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จในปี 2570 จะช่วยเพิ่มศักยภาพการกักเก็บและส่งน้ำ เพื่อการเกษตรฤดูฝน 2,500 ไร่ และฤดูแล้ง 1,700 ไร่ เกษตรกร 827 ครัวเรือนจะได้รับประโยชน์โดยตรง

นายอรรถกร กล่าวว่า ได้มอบหมายให้กรมชลประทานเร่งพิจารณาโครงการก่อสร้างฝายยางบ้านปากหมาก ซึ่งจะช่วยให้พื้นที่กว่า 2,000 ไร่ได้รับประโยชน์ และเสนอแผนบรรจุในงบประมาณปี 2570 รวมถึงการปรับปรุงประตูระบายน้ำศรีสองรัก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขงได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

“กระทรวงเกษตรฯให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรมาโดยตลอด โดยเฉพาะโครงการที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ตำบลนาอ้อ และตำบลศรีสองรัก ซึ่งได้มีการรับฟังปัญหาผ่านการประสานงานกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่ โดยในวันนี้ได้ติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ ทั้งฝายและอ่างเก็บน้ำ รวมถึงโครงการที่ริเริ่มมาตั้งแต่สมัยอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ซึ่งปัจจุบันมีความก้าวหน้าในระดับที่น่าพอใจ พร้อมทั้งได้กำชับกรมชลประทานให้เร่งรัดดำเนินโครงการที่เกี่ยวข้องกับความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อให้เกษตรกรได้รับประโยชน์โดยเร็วที่สุด” รมว.เกษตรฯ กล่าว

นายอรรถกร เปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัยด้วยว่า จากอิทธิพลของพายุหนองฟ้า ช่วงวันที่ 30 สิงหาคม – 2 กันยายน 2568 ทำให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ส่งผลให้หลายพื้นที่ของจังหวัดเลยประสบปัญหาน้ำท่วมและเกิดความเสียหายต่อการเกษตร ใน 7 อำเภอ 35 ตำบล 78 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 1,692 ครัวเรือน เบื้องต้นได้รับรายงานความเสียหาย ด้านพืช เกษตรกร 1,781 ราย คาดว่าพื้นที่เสียหายกว่า 6,859 ไร่ (ข้าว 6,001 ไร่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 326 ไร่ อ้อย 525 ไร่ และปาล์มน้ำมัน 7 ไร่) ด้านประมง เกษตรกร 183 ราย พื้นที่เสียหายรวม 108 ไร่ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม

“ผมได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดเร่งสำรวจความเสียหาย และดำเนินการเยียวยาช่วยเหลือเกษตรกรตามระเบียบอย่างเร่งด่วน รวมทั้งบูรณาการกับหน่วยงานท้องถิ่นและจังหวัดเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรอย่างทั่วถึงและทันเวลา และให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมจัดทำแผนฟื้นฟูและมาตรการป้องกัน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรและสร้างความมั่นคงในการประกอบอาชีพ” รมว.เกษตรฯ กล่าว

ทั้งนี้ นายอรรถกรได้มอบเมล็ดพันธุ์ผัก เมล็ดพันธุ์ปอเทือง เมล็ดพันธุ์ถั่วเหลือง พันธุ์ปลา เมล็ดพันธุ์ข้าว โฉนดเพื่อการเกษตรและโฉนดต้นยางพารา รวมถึงอาหารสัตว์และเวชภัณฑ์สัตว์ เสบียงอาหารสัตว์ จำนวน 5,000 กิโลกรัม เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนแก่เกษตรกรผู้ประสบภัย ตลอดเยี่ยมชมหน่วยบริการทำหมันสุนัขและแมวเคลื่อนที่ และนิทรรศการของหน่วยงานในสังกัด