กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้
การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.แมน เม่นแย้มรอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป.ปฏิบัติราชการ บก.ทล., พ.ต.อ.อินทรัตน์ ปัญญา ผกก.7 บก.ทล., พ.ต.ท.ฐิติวัสส์ แซมเขียว รอง ผกก.7 บก.ทล ทล. และ พ.ต.ท.ธนาคาร จันทร์กระจ่าง รอง ผกก.4 บก.ปคม.ปฏิบัติราชการ กก.7 บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.วิชัย โมฆรัตน์ สว.ส.ทล.2 กก.7 บก.ทล., ร.ต.อ.ชำนาญ สุวรรณชาตรี รอง สว.ส.ทล.2 กก.7 บก.ทล., ร.ต.ท.รัตนพงษ์ สว่างแจ้ง, ร.ต.ต.กิตตินนท์ ช่วยหวัง, รอง สว.(ป.) ส.ทล.2 กก.7 บก.ทล., ด.ต.สุรพงศ์ ผกาแก้ว, ด.ต.เมธา มีภาษี, ด.ต.สมศักดิ์ ปัญญโชติกุล, ด.ต.วีระพล บัวเนียม, ด.ต.อภิสิทธิ์ เอ่นแคน, จ.ส.ต.วรวิทย์ เพ็ชรรัตน์, จ.ส.ต.รณกร สอสืบ, ส.ต.ท.ณัฐพล จันทร์อินทร์ ผบ.หมู่ ส.ทล.2 กก.7 บก.ทล.ร่วมกันจับกุม นายวราวุฒิฯ อายุ 28 ปี ฐานความผิด “มีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน ตาม พ.ร.บ.สรรพสามิต ม.203”พร้อมตรวจยึดของกลาง น้ำมันดีเซล จำนวน 160 ลิตร และแกลลอนพลาสติก ขนาด 20 ลิตร จำนวน 8 ใบสถานที่จับกุม บนถนนทางหลวงหมายเลข 4 ต.ชุมพล อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง
พฤติการณ์ ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมตั้งจุดตรวจ บริเวณที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ ยี่ห้อ อีซูซุ
ขับผ่านมาในทางเดินรถลักษณะท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุดจับกุมจึงได้ส่งสัญญาณให้หยุดรถและแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะพบนายวราวุฒิฯ แสดงตนเป็นผู้ขับขี่ เมื่อสอบถามถึงภายในกระบะว่าบรรทุกอะไรมา นายวราวุฒิฯ ให้การว่าบรรทุกแกลลอน ขนาด 20 ลิตร จำนวน 8 ใบ โดยภายในบรรจุน้ำมันดีเซล รวมปริมาณน้ำมันดีเซลทั้งหมด ประมาณ 160 ลิตร โดยนำน้ำมันดีเซลดังกล่าว มาจากพื้นที่ จ.สงขลา เมื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบเอกสาร นายวราวุฒิฯ กลับไม่มีเอกสารเกี่ยวกับน้ำมันดีเซลมาแสดงได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดน้ำมันดังกล่าวไว้และแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการกระทำความผิดให้นายวราวุฒิฯ ทราบว่า เป็นความผิดฐาน “มีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน ตาม พ.ร.บ.สรรพสามิต ม.203”
นายวราวุฒิฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และร้องขอให้เปรียบเทียบปรับเพื่อให้คดีเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำตัว นายวราวุฒิฯ พร้อมของกลางทั้งหมดส่งผู้มีอำนาจเปรียบเทียบปรับคดี (ตาม ม.138) ณ สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่พัทลุง สาขาเมืองพัทลุง เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพ
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชนให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้างทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุดดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”
