สู้กับพวกตะลบตะแลง ไม่ต้องเปลืองตัว แค่ฉลาดและมีเป้าหมาย

551

ที่ว่ากันว่า “บางชาติ” คบไม่ได้ เล่ห์เหลี่ยมเยอะ และสารพัดพิษคงไม่เกินจริง เพราะหลังจากเหตุยิง เหตุปะทะตามที่ผู้นำกัมพูชาอยากให้เกิดซีนนี้เหลือเกิน ยั่วยุอย่างต่อเนื่อง สร้างข่าวเท็จไม่เว้นแต่ละวัน แถลงอย่างหน้าไม่อายในการปั้นน้ำเป็นตัว ทำให้เกิดการเสียเลือดเนื้อทั้งสองฝ่าย เพื่อสนองตัณหาในอำนาจ และผู้นำยิ่งกว่าทรราชเผด็จการที่เห็นการเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์เป็นเพียงเครื่องต่ออายุของตัวเอง มันเป็นเช่นนี้อย่างที่มีบางคนวิเคราะห์ไว้ คงไม่เกินจริง

ชีวิตของผู้ที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ครอบครัวที่ถูกพรากพ่อ พรากแม่ พรากลูก พรากครอบครัว จากคนที่ต้องการสร้างเรื่อง จากประเทศที่มีผู้นำยิ่งกว่าจอมเผด็จการ มันไม่ปกติ สิ่งเหล่านี้โลกต้องเห็นความไม่ซื่อตรง พูดเท็จจนเป็นนิสัยที่แก้ไม่หาย หรือภาษาไทยบัญญัติศัพท์คำสั้นๆ ไว้ว่า “สันดาน”

ที่สำคัญ น่าสงสารประชาชนฝั่งนั้นเช่นกัน ที่มีผู้นำที่ไม่ได้พาประเทศชาติให้เจริญได้ดีมากเท่าที่ควร เพราะเขามีเวลาบริหารประเทศมายาวนานมาก มีอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จ และสั่งการได้มากพอที่จะทำให้ประเทศรุ่งเรือง เจริญ ทำให้คนทั้งโลกน่าไปเยือน ทำให้ประเทศเขาเป็นทำเลทอง เพราะประเทศมีประวัติศาสตร์ ภูมิประเทศ ทะเล ทรัพยากรป่าไม้ และวัยแรงงานที่พอสมควร แต่กลับต้องส่งคนออกนอกประเทศ เพราะประเทศไม่ได้มีอนาคตที่มีความหวังมากเพียงพอต่อการดำรงชีพอย่างมีอนาคต แถมผู้นำก็กุมอำนาจไม่ได้มีวิสัยทัศน์ที่ทำให้ชาติเขาก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง หลายทศวรรษสูญหายไปเปล่าๆ ประเทศอยู่ได้ด้วยบ่อน เงินเทา การพนัน การตามไล่ล่าฝ่ายค้าน การตามล้างแค้นปิดปากคนเห็นต่าง นี่คงสะกดคำว่าโลกาภิวัตน์ ความเจริญอย่างนานาอารยประเทศไม่เป็น เลยอยู่ได้ด้วยความเป็นเทาๆ เงินไม่โปร่งใส แทนที่จะพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ไม่ต้องแบบไทย เอาแค่เพื่อนบ้านของพวกคุณอย่างเวียดนามก็ได้ แต่ดูๆ ไป ดูๆ มา ไม่น่าจะมีวันทำได้ เพราะดูท่าทีผู้นำทำอย่างนี้ทุกวัน คงไม่มีวันพัฒนาอย่างมีวุฒิภาวะได้

แล้วที่ทำตัวเย้วๆ เมื่อไปดูทหารที่เป็นรั้วของชาติพวกเขา การกินอยู่ก็ดูไม่มีความมั่นคงทางอาชีพ ชุดเครื่องแบบ ยุทโธปกรณ์ อาหาร ความเป็นอยู่ สะท้อนอนาคตชาติของทางนั้นได้ชัด ผู้นำกลับนั่งห้องแอร์ ดื่มสตาร์บัคส์ โพสต์สรรพคุณอวดอ้างความทุ่มเท ว่าบัญชาการรบด้วยตัวเอง พออีกเวลาก็เป็นเหมือนเด็กงอแงที่หาเรื่องเอง โวยวายเอง โกหกเอง เรียกร้องเอง โพสต์เท็จเอง คนที่พยายามรับบทเหยื่อ แต่ดูร้อนรนพิลึกพิลั่น เชื่อว่าสักวันคนทั้งโลกจะเห็นพ้องและเห็นภาพเดียวกันทั้งหมด

ขณะเดียวกัน เราจะเห็นว่าฝั่งทางการไทยไม่ค่อยได้เล่นไปกับเกมไร้วุฒิภาวะปั้นข่าวเท็จ แต่สิ่งที่เราเห็นคือความล่าช้า เหมือนตั้งหลักไม่ได้ในตอนแรก ขาดการสื่อสารอย่างมีเอกภาพและแข็งแรง ยิ่งมีอินฟลูเอนเซอร์หิวเอนเกจมาโพสต์หาแสงไปวันๆ อยากได้ยอด อยากมีตัวตน มีเพจที่ไม่รู้ใครทำมาโพสต์ให้ข้อมูลเท็จบ้าง จริงบ้าง และกลับถูกแชร์อย่างแพร่หลาย คนก็เข้าใจว่าคือข่าวจริง ตรงนี้เรานึกย้อนไปได้อย่างตอนวิกฤตแผ่นดินไหว ความไม่แข็งแรงในการสื่อสารกับประชาชนของตัวเอง จะทำให้คนหวาดระแวง วิ่งลงตึกกันหลอนเป็นสัปดาห์ และหลังจากนี้ พอเสียงกระสุนเงียบลง เราก็จะกลับไปสู่สโลแกน “ยามศึกเรารบ ยามสงบเรารบกันเอง”

ถึงเวลาหรือยังที่รัฐบาลและคนที่มีอำนาจจะปรับการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ เพราะนี่คือวิกฤตที่ไม่ปกติ การทำงานต้องไม่ปกติ ต้องยกระดับการทำงานได้แล้ว เพราะตัวพวกคุณก็วิกฤตหนักพอสมควร ไม่แก้ไขไม่ปรับปรุง พวกคุณจะตายแล้วตายอีก ตายซ้ำตายซ้อน นี่ไม่ใช่คำเตือนเพื่อคะแนนนิยม แต่นี่คือคำเตือนเพื่อให้ประชาชนอยู่อย่างไม่หวาดระแวง อยู่อย่างรู้ว่าข่าวปลอมถูกกำจัด ข่าวจริงเช็กได้จากที่ไหน ไม่ใช่วันๆ ต้องไปรอเพจไม่มีตัวตนมาชี้นำสังคม ผสมกับผู้นำสันดานโกหกในฝั่งตรงข้ามมาปั้นน้ำเป็นตัว และสนับสนุนเต็มที่ในการเล่นใหญ่ฟ้องโลกเรียกค่าเสียหาย จากอาชญากรตระกูลฮุน ผู้นำที่เลือดเย็น โจมตีโรงพยาบาล ร้านค้าประชาชน ทำให้ทหารตัวเองต้องตายมหาศาล ศพก็ไม่มาเก็บ สักวันกรรมหรือสิ่งที่ทำไว้จะไล่ตามทันทั้งตระกูล..!!!