สุพรรณบุรี วันที่ 23 กรกฎาคม – กรมกิจการผู้สูงอายุ และ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดกิจกรรม “โครงการบริบาลและคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุในชุมชน พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ แก้วิกฤติประชากร” โดยมีนายกนก วงษ์ตระหง่าน รองประธานคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดการขับเคลื่อนนโยบาย รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายณัฐนันท์ ทัดพิทักษ์กุล ผู้อำนวยการขับเคลื่อนแผนงานระบบสนับสนุนการเข้าถึงสารสนเทศ และการสื่อสารสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ และทีมวิจัยนวัตกรรมและข้อมูลเพื่อสุขภาพ กลุ่มนวัตกรรมแพลตฟอร์มดิจิทัลสุขภาพการแพทย์ (DHCB) สวทช. ร่วมให้สัมภาษณ์ในประเด็นการพัฒนานวัตกรรม หนุน “ผู้บริบาล”ติดตาม – ดูแล ผู้สูงอายุในชุมชน ผ่านระบบ “นิรันดร์” ที่ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ (ศพอส.) องค์การบริหารส่วนตำบลนิคมกระเสียว อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี
นายกนก กล่าวว่า ในปี 2567 ประเทศไทยได้เข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ มีจำนวนผู้สูงอายุคิดเป็นร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว สวนทางกับอัตราการเกิดใหม่ของประชากรวัยเด็กและวัยแรงงานที่มีจำนวนลดลง กระทรวง พม. จึงผลักดันข้อเสนอเชิงนโยบาย 5X5 ฝ่าวิกฤตประชากร เพื่อให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีและเป็นพลังทางสังคม โดยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสร้างกลไกการดูแลผู้สูงอายุในชุมชน ผ่าน “โครงการบริบาลและคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุในชุมชน” ด้วยการจัดระบบบริบาลและพัฒนาการคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน สร้างผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ
ระบบดังกล่าวทำหน้าที่ปกป้อง คุ้มครองพิทักษ์สิทธิ ช่วยเหลือดูแล และพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุครอบคลุม ทั้ง 5 มิติ ได้แก่ มิติสังคม สุขภาพ เศรษฐกิจ สภาพแวดล้อม และเทคโนโลยี และผสานความร่วมมืองานทางด้านการ “พัฒนาสังคม” ของ กระทรวง พม. และ “นวัตกรรมเทคโนโลยี” ของ สวทช. เข้าด้วยกัน เป็นโมเดลการแก้ปัญหาสังคมแบบใหม่ โดยการใช้นวัตกรรมจากระบบนิรันดร์ ของ สวทช. เข้ามาเป็นส่วนเติมเต็มให้กับโครงการบริบาลฯ ในการขับเคลื่อนดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุและลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม
ทั้งนี้ สวทช. พัฒนาระบบ “นิรันดร์” ซึ่งเป็นระบบซอฟต์แวร์บริหารจัดการสถานดูแลผู้สูงอายุ เพื่อใช้ดูแลผู้สูงอายุ และเป็นเครื่องมือทำงานของ “ผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ” โดยระบบนิรันดร์ช่วยสนับสนุนการรายงานผลงานประจำวันของผู้บริบาลฯ ช่วยติดตามผลการดูแลผู้สูงอายุเฉพาะรายในพื้นที่อย่าง Real Time ช่วยบันทึกข้อมูลประวัติส่วนบุคคลเบื้องต้น สภาพปัญหา ความต้องการของผู้สูงอายุ และวิเคราะห์กิจกรรมการดูแลผู้สูงอายุที่เหมาะสม สอดคล้องต่อสภาพปัญหาและความต้องการของผู้สูงอายุได้ เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ
จากนั้นนายกนก และคณะ ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านผู้สูงอายุและสังเกตุการณ์การปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริบาลฯ ในพื้นที่นิคมสร้างตนเองกระเสียว ในด้านต่างๆ พร้อมสาธิตการเล่นเกม “ขนมมงคล“ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ออกแบบมาเพื่อพัฒนาระบบสมอง และส่งเสริมทักษะทางความคิด ด้านความจําสำหรับผู้สูงอายุเป็นหลักช่วยป้องกันภาวะสมองเสื่อมที่เป็นปัญหาสุขภาพของผู้สูงอายุในปัจจุบันที่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น และช่วยฝึกความทรงจำ เสริมพัฒนาการทางด้านสมองและกล้ามเนื้อมือ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการนำเกมขนมมงคล สนับสนุนให้ผู้บริบาลฯ นำไปใช้ในการจัดกิจกรรมให้กับผู้สูงอายุในพื้นที่และชมรมผู้สูงอายุ
