ตำรวจCIB บุก 14 จุดทั่วไทย ทลายเครือข่าย “รถหลุด ป้ายปลอม เล่มผี ภาษีเก๊” ยึดของกลางเพียบ จับ 2 ผู้ต้องหา

413

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เปิดปฏิบัติการ “CIB สยบขบวนการขายรถหลุด ป้ายปลอม เล่มผี ภาษีเก๊” สนธิกำลังกว่า 50 นาย ลงพื้นที่ปูพรมตรวจค้นพร้อมกัน 14 จุดทั่วประเทศ ได้แก่ นครปฐม, กรุงเทพฯ, ร้อยเอ็ด, ขอนแก่น, ยโสธร, นครพนม, อุบลราชธานี, นครราชสีมา และสุรินทร์ จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมของกลางกว่า 42 รายการ

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. และ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายภาสวัฒน์ อายุ 48 ปี และนายถิรวิทย์ อายุ 30 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ร่วมกันปลอมเอกสารราชการ” โดยทั้งสองถูกจับได้ในพื้นที่ จ.นครปฐม และเขตหนองจอก กรุงเทพฯ

ตรวจค้นพบของกลางสำคัญจำนวนมาก อาทิ รถยนต์ 8 คัน,โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง,ป้ายทะเบียนรถยนต์ 5 แผ่น,ป้ายภาษีปลอม 6 แผ่น,เอกสารเกี่ยวข้องอีก 17 รายการ และจุดเริ่มต้นจาก BMW เอกสารปลอม สู่การขยายผลทั่วประเทศ

ต้นตอของปฏิบัติการมาจากการที่ตำรวจทางหลวงนครราชสีมาพบรถยนต์ BMW ที่ใช้เอกสารทะเบียนปลอม เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2568 โดยขยายผลจนพบว่าถูกซื้อผ่านเพจเฟซบุ๊กชื่อ “เฮียอ๊อด” ซึ่งเป็นแหล่งซื้อ-ขายรถผิดกฎหมายในโลกออนไลน์ จนนำไปสู่การล่อซื้อและรวบรวมพยานหลักฐานยื่นขอหมายจับและหมายค้น

จากการล่อซื้อ พบว่าเพจ “เฮียอ๊อด” เสนอขายป้ายภาษีปลอมในราคาเพียง 2,500 บาท โดยใช้ชื่อจริงและข้อมูลจริงในการจัดส่ง สืบจนพบว่าเชื่อมโยงกับนายถิรวิทย์ฯ ซึ่งมีประวัติอาชญากรรมด้านการปลอมเอกสารและยาเสพติด

ข้อมูลจากการสืบสวนยังพบว่า เครือข่ายดังกล่าวไม่เพียงแค่ปลอมเอกสารหรือขายรถหลุดจำนำเท่านั้น แต่ยังเชื่อมโยงกับอาชญากรรมร้ายแรง เช่น คดีขนระเบิดในภาคใต้ โดยรถต้องสงสัยที่ถูกจับได้ในคดีนั้นก็พบว่าเป็นรถจากเครือข่ายเดียวกัน

ประเมินว่าเครือข่ายมีเงินหมุนเวียนมากกว่า 200 ล้านบาทต่อปี มีรายได้จากการขายแผ่นป้ายภาษีปลอมถึงหลักล้านต่อปี และใช้วิธีการตลาดผ่านเฟซบุ๊กหลอกล่อประชาชนด้วยราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาดมาก

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายถิรวิทย์ฯ รับสารภาพว่าเป็นผู้ผลิตและจัดส่งป้ายภาษีปลอม ส่วนภาสวัฒน์ฯ รับว่าขายรถหลุดจำนำผ่านเพจ “เฮียอ๊อด” และ “เสี่ยบัง ยอดแหลม” พร้อมทั้งมีส่วนร่วมในการจำหน่ายป้ายภาษีปลอมด้วย

ตำรวจสอบสวนกลางฝากเตือนประชาชนว่า การซื้อรถราคาถูกผิดปกติหรือรถที่ไม่มีเอกสารถูกต้องเสี่ยงถูกดำเนินคดีไม่ต่างจากผู้ร่วมกระทำผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ใช้หรือมีเอกสารปลอมในครอบครอง อาจถูกดำเนินคดีฐานใช้เอกสารปลอมหรือรับของโจรได้ทันที

พฤติกรรมซื้อขายรถหลุด-เอกสารปลอมไม่เพียงกระทบต่อผู้ซื้อรายบุคคล แต่ยังกระทบต่อระบบการเงินของประเทศ สร้างหนี้เสียให้กับระบบไฟแนนซ์ปีละหลายแสนล้านบาท ขายทอดตลาดก็ไม่สามารถเรียกคืนมูลค่าหนี้ได้เต็มจำนวน

ตำรวจสอบสวนกลางเน้นย้ำว่า ทางลัดผิดกฎหมายไม่เคยนำพาไปสู่ความมั่นคงทางการเงินและชีวิต พร้อมขอความร่วมมือประชาชนในการแจ้งเบาะแสพฤติกรรมลักษณะนี้ เพื่อตัดวงจรอาชญากรรมในระยะยาว