“รองฯ เต่า” เจอพิษ “คำพูดเป็นนาย”สื่อโซเชียลซัดให้สัมภาษณ์กำกวม ล้อเลียนเจอตอ-จวกทำเสียหาย

1253

กลายเป็นกระแสดราม่าในสื่อโซเชียลเมื่อ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) หัวเรือใหญ่สางคดีสีกา-กอล์ฟ พัวพันพระชั้นผู้ใหญ่เกือบ 20 รูป ให้สัมภาษณ์ทำนองว่ามีการร้องเรียนเข้ามาในศูนย์ทำนุบำรุงศาสนามานานแล้วว่าพระชั้นผู้ใหญ่ทุจริตเงินขอบริจาคสร้างศาสนสถานแต่ยังไม่เสร็จ เป็นเงินหลายร้อยล้านบาทและเกี่ยวพันกับสีกา

“ตำรวจได้เปิดปฏิบัติการมาสักพักแล้ว พบว่ามีความผิดถึงขั้นปาราชิก อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน พระรูปนี้มีสมณศักดิ์สูงกว่าคดีสีกา-กอล์ฟ ส่วนจะเป็นพระรูปใดไม่ขอระบุ” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุ

จังหวะเดียวกันนั้น นายอุทิศ ศิริวรรณ นักวิชาการด้านพระพุทธศาสนา โพสต์เฟซบุ๊กว่า “พลันที่เห็น 3 ภาพลับ ผมเองช็อกและน็อกแน่นิ่ง คล้ายฟ้าถล่มตรงหน้า ภาวนาว่าไม่เป็นความจริงๆ” นอกจากนี้แปะข้อความที่บรรยายถึงพระที่ปาราชิก บางตอนระบุว่ายังมีชุดใหญ่กว่าสีกา ก. ฟังแล้วสังเวชใจ พร้อมระบุเป็นรหัสไม่ลับ 2 ส 3 พ 1 ธ เปิดหน้าออกมาเลย ชาวพุทธพร้อมรับทราบด้วยหัวใจที่เป็นธรรม

จากความเห็นของทั้งสอง สื่อโซเชียลนำไปวิเคราะห์ต่างๆ นานา มีการโพสต์เชิงสัญลักษณ์ที่สื่อถึงพระสมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะชั้นธรรม และพระราชาคณะชั้นเทพบางรูป ส่วนสื่อกระแสหลักบางสำนักนำเสนอประวัติพระบางรูปอย่างมีนัยยะสำคัญ เกิดกระแสคาดเดากันว่าใช่พระที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์และนายอุทิศโพสต์ในเฟซบุ๊กหรือไม่ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าทุกครั้งที่มีเหตุในเชิงเสียหายแต่ถูกปกปิดชื่อ พอสื่อโซเชียลกระแสหลักและกระแสรองนำประวัติมาเปิดเผยมักจะตรงกับบุคคลที่ถูกปกปิดชื่อเสมอ

กระแสดราม่าร้อนแรงเหมือนไฟลามทุ่ง ชาวบ้านที่มีสื่ออยู่ในมือต่างแชร์ข้อความและประวัติของพระที่สื่อกระแสหลักและกระแสรองนำเสนอ พร้อมเขียนข้อความเชิงเสียดสี สื่อไปในทางที่ทำให้เสียชื่อเสียง

กระทั่ง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ออกมาดับกระแสว่าผิดเพี้ยนไปเยอะ และไม่ตรงประเด็นเท่าไหร่ ส่วนกระแสที่ระบุว่าเกี่ยวข้องกับพระชั้นผู้ใหญ่ระดับสมเด็จนั้น ไม่ได้ตีความไปขนาดนั้น แต่ตีความว่าตามที่ได้รับแจ้งข้อมูลมา มีประโยชน์และเกี่ยวพันกับพระชั้นผู้ใหญ่ที่สูงกว่าชั้นเทพ อาจจะเป็นชั้นธรรม ชั้นพรหม ชั้นสมเด็จ แต่คนนำไปตีความเลยเถิด แต่จริงๆ อยู่ในต่างจังหวัด

พลันที่ข่าวสัมภาษณ์ พล.ต.ต.จรูญเกียรติแพร่ออกไป เกิดกระแสดราม่าอีกรอบ มีการผลิตคอนเทนต์แชร์ในสื่อโซเชียลทำนองเต่าเดินชนตอไม้ บางคอนเทนต์แต่งตัวเป็นเต่าคลานสี่ขาชนตอไม้เป็นต้น

ขณะที่บรรดาลูกศิษย์ของสมเด็จพระราชาคณะ ที่ถูกสังคมตั้งข้อสงสัย โพสต์เชิงตำหนิ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ว่าครูบาอาจารย์ใคร ใครก็รัก ที่ตำรวจใช้กฎหมายขจัดพระที่ไม่ดีออกไปเป็นเรื่องดี แต่ออกมาให้สัมภาษณ์แบบกำกวม บอกใบ้ให้คนไปคาดเดาไปต่างๆ นานา เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวพันกับพระชั้นผู้ใหญ่

ดังนั้นเมื่อมองอย่างวิเคราะห์จากคำสัมภาษณ์ของ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ มีผลสะท้อนในเชิงลบมากกว่าบวก เข้าทำนองคำพูดเป็นนาย อย่างประเด็นที่บอกว่ากำลังรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดพระมีสมณศักดิ์สูงกว่าคดีสีกา-กอล์ฟ ทำให้พุทธศาสนิกชนที่ติดตามข่าวนำไปวิเคราะห์ผูกโยงกับกรณีพระ 81 รูปถูกยกเลิกประกาศสถาปนาตั้งสมณศักดิ์

ซึ่งในแวดวงพระสงฆ์ต่างมีข่าวลือสะพัดว่าพระบางรูปได้สมณศักดิ์สูงขึ้น ต้องใช้ปัจจัยนำทาง คล้ายกับการวิ่งตำแหน่งในแวดวงราชการ

แม้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ออกมาสัมภาษณ์เชิงแก้ข่าวว่าผิดเพี้ยน ตีความเลยเถิด เท่ากับหักล้างการคาดเดา ทำให้สังคมเกิดข้อสงสัยพร้อมตั้งคำถามว่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เจอตอใช่หรือไม่?

สำหรับคดีใหญ่ๆ คำว่าเจอตอ กลายเป็นความคุ้นชินของสังคมไทยไปแล้ว เพราะหลายคดีพอตำรวจสืบสวนไปจุดใกล้ไคลแมกซ์ จะถูกสั่งให้ยุติ ไม่สาวต่อไปถึงผู้บงการ จากนั้นอ้างเหตุผลว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอ

จากการตั้งข้อสังเกตว่าตำรวจเจอตอ ถือว่าไม่เป็นผลดีต่อองค์กรตำรวจเลย เพราะถูกมองว่าเป็นการเลือกปฏิบัติในการบังคับใช้กฎหมาย แถมฉุดภาพลักษณ์ของ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ที่ประชาชนเกือบทั้งประเทศให้ความเชื่อถือว่าเป็นตำรวจตงฉิน กล้าลุยคดีทุจริตทุกรูปแบบ ไปในเชิงลบด้วย ยิ่งคดีที่กระทบต่อศรัทธาของประชาชนด้วยแล้ว ตำรวจต้องทำงานตรงไปตรงมาและรัดกุม สาวไปให้ถึงผู้เกี่ยวข้องที่ร่วมกันกระทำผิด

ดังนั้นเพื่อลดข้อครหาว่าคดีที่เกี่ยวพันกับพระชั้นผู้ใหญ่กำลังเจอตอนั้น ตำรวจจะต้องเร่งสะสางทำความจริงให้กระจ่างโดยเร็ว วางกรอบการทำงานให้ชัดเจนทั้งสืบสวน สอบสวน และการแถลงข่าวความคืบหน้าของคดี ผู้แถลงต้องสื่อสารให้ชัดเจน ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง อย่าให้ข้อมูลแบบกำกวมหรือบอกใบ้ให้สังคมนำไปคาดเดา เพราะจะสร้างความเสียหายให้กับบุคคลที่ถูกคาดเดา ดังที่พระชั้นผู้ใหญ่หลายรูปกำลังโดน

จึงได้แต่หวังว่านับจากนี้เป็นต้นไป คงได้เห็นทีมสืบสวนสอบสวนสางคดีพระชั้นผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต ไม่ว่าจะเป็นเงินวัด หรือการจ่ายปัจจัยเพื่อเลื่อนสมณศักดิ์ รวมถึงมั่วสีกา มีระบบการทำงานที่ชัดเจนในทุกมิติ กำหนดเนื้อหาข่าวที่จะแถลงให้ชัดเจน ตอบทุกประเด็นที่สังคมสงสัยได้

ที่สำคัญอย่าลืมว่าเป็นคดีละเอียดอ่อนเกี่ยวพันกับศรัทธาของประชาชน หากตำรวจก้าวพลาด เลือกปฏิบัติ ปล่อยให้พระชั้นผู้ใหญ่ที่มีหลักฐานการกระทำผิดลอยนวล โอกาสจะได้เห็นคำทำนายที่ว่าวัดจะร้างมีสูง!!!