กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรา (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พงค์ปณต ชูแก้ว รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.สิทธิเกียรติ ศรีจันทร์, พ.ต.ท.วาทิต จิตรจันทึก, พ.ต.ท.อภิเดช อธิคมสัญญา, พ.ต.ท.ศรัณย์ ศรีพักตร์, พ.ต.ท.พิทยา ธนาวุฒิ รอง ผกก.5 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.กิตติบดินทร์ กิมเซียะ สว.กก.5 บก.ป., ร.ต.อ.นิติธร ประชันกาญจนา รอง สว. กก.5 บก., ด.ต.โสภณ เก็งฮะ ผบ.หมู่ กก.5 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายอำนาจหรือบัวขาว อายุ 51 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสระแก้วที่ 275/2556 ลงวันที่ 11 กรกฎาคม 2556 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งความตาย, ร่วมกันกักขังหรือหน่วงเหนี่ยว หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันปล้นทรัพย์ผู้อื่นโดยมีอาวุธปืนติดตัวไปด้วย เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยแต่เครื่องแบบตำรวจ และโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม” สถานที่จับกุม บริเวณหน้าห้องเช่าแห่งหนึ่ง ต.โคกสูง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา
พฤติการณ์ เหตุเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2556 นายพันศักดิ์ฯ กับพวก รวม 7 คน ได้ใช้ยานพาหนะรถยนต์จำนวน 2 กัน คือรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว และรถยนต์กระบะยี่ห้อฟอร์ด สีเทา ตอนเดียว มีลูกกรง สแตนเลสด้านหลัง ขับขี่เพื่อมาจับตัวนายชัยชนะ ที่ซอยที่เกิดเหตุ แต่เมื่อมาถึงซอยที่เกิดเหตุ ปรากฏว่า นายชัยชนะ ได้ขับรถออกไปก่อน จึงไม่สามารถจับตัวนายชัยชนะ ได้สำเร็จ จากการสืบสวนทราบว่า นายพันศักดิ์ กับพวกได้ร่วมกันนำตัวนายชัยชนะ เข้าไปในบ้าน ซึ่งน่าเชื่อว่าได้ร่วมกัน ทำร้ายร่างกายนายชัยชนะ จนเสียชีวิต จากนั้นได้นำร่างของนายชัยชนะ ขึ้นรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ แล้วได้ขับรถไปยังบ้านของนายนิคม โดยมีรถยนต์ และรถยนต์เก๋งขี่ยี่ห้อเบนซ์ขับตามไปด้วย เมื่อไปถึงบ้านของนายนิคมฯแล้ว นายนิคม ได้เตรียมยางรถยนต์ไว้จำนวน 3 เส้น แล้วนายชม นายกฤษฎา และนายน้อย ได้มาขึ้นรถยนต์ของนายนิคม จากนั้นก็ได้เดินทางไปยังบ้านของนายสมหมาย ต่อมานายสมหมาย ได้ขับรถนำไปยังสวนยูคาลิปตัสบ้านคลองมะเคือ ซึ่งเป็นจุดเผาร่างของนายชัยชนะ เมื่อไปถึงยังจุดเผา นายพันศักดิ์ กับพวกรวม 9 คน ก็ได้ร่วมกับจุดไฟเผาร่างของมายชัยชนะ จนเสร็จเเล้ว ได้เดินทางกลับไปยังบ้านของ นายนิคม ส่วนนายสมหมาย ได้แยกกลับไปต่างหาก นายนิคม นายพันศักดิ์ กับพวกก็ได้ขับรถแยกย้ายกันกลับบ้าน
พฤติการณ์ในการจับกุม ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้ง ว่า นายอำนาจหรือบัวขาว อายุ 51 ปี ผู้ต้องหา ได้ปรากฏตัวอยู่บริเวณสถานที่จับกุม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบหาตามที่ได้รับข้อมูล จึงเห็น นายอำนาจหรือบัวขาว (ผู้ต้องหา) ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่ ต.โคกสูง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ชุดจับกุมจึงได้เข้าไปตรวจสอบยังพื้นที่ดังกล่าว พบว่า นายอำนาจหรือบัวขาว ปรากฏตัวและยืนอยู่บริเวณหน้าห้องเช่าแห่งหนึ่ง ต.โคกสูง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา จึงได้แสดงตัวเป็นตำรวจ สอบถามชื่อ-สกุล มีชื่อนามสกุล เลขประจำตัวประชาชนตรงกับรายละเอียดของผู้ต้องหาในหมายจับดังกล่าวข้างต้น ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงหมายจับให้ นายอำนาจหรือบัวขาว (ผู้ต้องหา) ดู อ่านให้ฟังและอ่านเองแล้ว นายอำนาจหรือบัวขาว รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับฉบับนี้จริง และไม่เคยถูกจับกุมในคดีนี้มาก่อนแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งว่าต้องถูกจับกุม พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับให้ทราบและแจ้งสิทธิตามกฎหมายข้างต้นให้ทราบ นายอำนาจหรือบัวขาว ช้างหมื่นไวย ได้รับทราบข้อความทราบข้อกล่าวหาพร้อมทั้งเข้าใจสิทธิของตนเองโดยตลอดแล้ว ตำรวจได้นำตัวไปทำการบันทึกจับกุม จากนั้นนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
