สทร. จับมือ สถาบันยานยนต์ พัฒนาอุตสาหกรรมระบบราง เพิ่มทางเลือกเศรษฐกิจไทย

142

ที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย นายจุลเทพ ขจรไชยกูล ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์กรมหาชน) (สทร.) และ นายเกรียงศักดิ์ วงศ์พร้อมรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ (สยย.) ประสานความร่วมมือจัดทำ บันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมระบบรางของประเทศ โดยมีนายพิศิษฐ์ แสง-ชูโต กรรมการ สทร. / สยย. และนายตรีพล บุณยะมาน รองผู้อำนวยการสยย. เป็นพยาน เมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2568 ณ ห้องประชุม M1 สถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง

นายจุลเทพ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วง ของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งทางรางครั้งใหญ่ในรอบหลาย ทศวรรษไม่ว่าจะเป็นเป็นการขยายเส้นทางโครงข่ายและ การเพิ่มเส้นทางรางคู่ขนาด 1 เมตร การพัฒนาโครงข่ายระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูงและการพัฒนาระบบไฟฟ้ารางเบาในจังหวัดหัวเมือง
โดยโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวจะกลายเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยในอนาคต จึงก่อให้เกิดบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมระบบรางของประเทศระหว่างสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์กรมหาชน) กับ สถาบันยานยนต์ ฉบับนี้ขึ้น เพื่อให้เกิดการ
บูรณาการร่วมกันระหว่างทั้งสองหน่วยงานในการพัฒนาอุตสาหกรรมระบบรางของประเทศไทย

โดยวัตถุประสงค์หลักร่วมกัน คือ การสร้างนวัตกรรมเกี่ยวกับระบบรางเพื่อสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี ตลอดจนสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมไปสู่การใช้ประโยชน์ภายในประเทศ มีการถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการวิจัยและพัฒนาระหว่างสองหน่วยงาน โดยเฉพาะกรอบและวิธีการ ทำงานเครื่องมือที่ใช้สนับสนุนพัฒนาเทคโนโลยี และผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ พัฒนาศักยภาพและทักษะของบุคลากรจากการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง จัดทำมาตรฐานและการตรวจสอบรับรองชิ้นส่วนอุปกรณ์และระบบที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในการขับเคลื่อน และประเมินศักยภาพและพัฒนาผู้ประกอบการให้เข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมการผลิตรถรถไฟในประเทศไทย

ด้านนายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า การส่งเสริมให้เกิดอุตสาหกรรมการผลิตรถไฟภายในประเทศ นอกจากจะส่งผลดีต่อการคมนาคมขนส่งแล้ว ยังมีผลต่ออุตสาหกรรมเดิมในประเทศ เนื่องจากในปัจจุบัน อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยนั้น กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทยต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีการผลิตยานยนต์จากการใช้รถเครื่องยนต์สันดาปภายใน เป็นการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ที่กลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่ต้องรับมือกับการดิสรัปชั่นที่เกิดขึ้น สู่การปรับตัวของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ไทยเพื่อรองรับการเติบโตของการขนส่งทางรางของประเทศ

ดังนั้น การมีทางเลือกอื่นจะทำให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์ ด้วยความพร้อมและความสามารถในการผลิต เมื่อเชื่อมโยงเข้ากับกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์​ไทย จะสามารถปรับเปลี่ยนธุรกิจ ทำให้ยังคงสถานะธุรกิจและการจ้างงานในประเทศ  และยังเป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศมีศักยภาพผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และชิ้นส่วนรถไฟไปพร้อม ๆ กัน ดังนั้น การส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตระบบรางในประเทศ จึงก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจในหลายมิติอีกด้วย

ครั้งนี้ จึงถือเป็นโอกาสที่​ดี​ ที่สถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์กรมหาชน) กับ สถาบันยานยนต์ จะเข้ามาพัฒนาห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ​​ของอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมระบบราง โดยมีกระทรวงอุตสาหกรรม  พร้อมด้วยหน่วยงานพันธมิตร นักวิชาการ จากภาครัฐและภาคเอกชนร่วมกันสนับสนุน​ต่อไป