“พล.ต.อ.เอก” ก.ตร.ผู้ทรงฯ ชี้ ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลต้องปฏิรูปตำรวจอย่างจริงจังและเป็นระบบ โดยนำแนวทางตามบัญญัติ 10 ประการมาดำเนินการพร้อมกันอย่างบูรณาการ

796

เมื่อวันที่ 12 ก.พ.68 พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ อดีตรอง ผบ.ตร.และ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ได้โฟสต์ข้อความผ่านโซเชียล facebook มีใจความระบุว่า :” การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมและบทบาทของตำรวจไทย: มุมมองและประสบการณ์จากเวทีสัมมนา”

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 18.00-20.00 น. ผมได้รับเกียรติให้เป็นวิทยากรรับเชิญ ร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิท่านอื่นๆ ในงานสัมมนา The Rule of Law Reform in Thailand Now and Never ซึ่งจัดโดยสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (Thailand Institute of Justice: TIJ ) โดยผมได้นำเสนอประเด็นเกี่ยวกับตำรวจกับหลักนิติธรรมในบริบทของการปฏิรูปตำรวจไทย วิกฤตอาชญากรรมในยุคดิจิทัล ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านอาชญากรรมที่มีความซับซ้อนมากขึ้นตามพัฒนาการของสังคม

โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชญากรรมทางไซเบอร์ (Cybercrime) ที่มีอัตราการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลาเพียง 2 ปีเศษ มีคดีเกิดขึ้นกว่า 500,000 คดี สร้างความเสียหายทางการเงินประมาณ 70,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยวันละ 80 ล้านบาท

ในประเด็นนี้ ผมได้นำเสนอต่ออดีตนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ในการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) เมื่อปีที่ผ่านมา เพื่อขอให้ท่านเป็นประธานในการประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ

เนื่องจากการรับแจ้งความปลายเหตุของตำรวจไม่เพียงพอต่อการแก้ไขปัญหา ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ทันที แต่น่าเสียดายที่ท่านต้องพ้นจากตำแหน่งก่อนที่จะได้ดำเนินการ ความท้าทายในการปฏิบัติหน้าที่ ปัจจุบันเราพบความขัดแย้งระหว่างความคาดหวังของประชาชนและข้อจำกัดในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ

ในด้านหนึ่ง ประชาชนต้องการให้ตำรวจให้บริการที่รวดเร็ว สุภาพ เป็นไปตามหลักกฎหมาย และมีประสิทธิภาพในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ในอีกด้านหนึ่ง ตำรวจประสบปัญหาด้านอัตรากำลัง งบประมาณ และทรัพยากรที่จำเป็นต่อการปฏิบัติหน้าที่

สภาพปัญหาที่เห็นได้ชัดคือ ประชาชนต้องพึ่งพาผู้มีอิทธิพลในสังคม (Influencers) เช่น คุณกัน จอมพลัง คุณปวีณา หงสกุล และมูลนิธิสายไหมต้องรอด ในการช่วยประสานงานกับตำรวจ นอกจากนี้ ยังพบข่าวการใช้อำนาจโดยมิชอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่เป็นประจำ

ในขณะเดียวกัน ตำรวจไทยได้รับค่าตอบแทนที่ต่ำเมื่อเทียบกับบุคลากรอื่นในกระบวนการยุติธรรม และได้รับงบประมาณสนับสนุนการปฏิบัติงาน เช่น ค่าน้ำมันรถสายตรวจ เพียงหนึ่งในสามของความต้องการที่แท้จริง ปัญหาเหล่านี้ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมจากรัฐบาลชุดใดที่ผ่านมา มุมมองสำคัญต่อการปฏิรูป การปฏิรูปตำรวจจำเป็นต้องพิจารณาจากสามมุมมองสำคัญ

ประการแรก ตำรวจเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการยุติธรรมและต้องเป็นที่พึ่งของประชาชน การปฏิรูปตำรวจได้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 ในสมัยรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ แต่ยังไม่มีความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรม

ประการที่สอง สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงสะท้อนปัญหาที่รุนแรง ดังที่ พลตำรวจเอก วสิษฐ เดชกุญชร อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจและประธานคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ ได้สะท้อนผ่านนวนิยายเรื่อง “สารวัตรเถื่อน” และ “สารวัตรใหญ่”โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีที่ผ่านมา มีกรณีนายตำรวจระดับสูงถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์และการฟอกเงิน ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน

ประการที่สาม การปฏิรูปต้องดำเนินการอย่างเป็นระบบและครอบคลุมทุกด้าน โดยอ้างอิงจากผลการศึกษาของคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งในสมัยรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ เมื่อปี พ.ศ. 2550 โดยมี พลตำรวจเอก วสิษฐ เดชกุญชร เป็นประธาน และ ดร.กิตติพงศ์ กิตยารักษ์ เป็นเลขานุการ

คณะกรรมการประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจากภาควิชาการ สื่อมวลชน และภาคประชาสังคม รวมกว่า 100 ท่านได้ร่วมกันศึกษาวิจัยอย่างเป็นระบบ มีการรับฟังความคิดเห็นจากทั้งประชาชนและตำรวจ รวมถึงศึกษาบทเรียนการปฏิรูปตำรวจจากต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จ จนได้ข้อสรุปเป็นบัญญัติ 10 ประการในการปฏิรูปตำรวจ ซึ่งยังคงมีความสำคัญและเป็นแนวทางที่ควรนำมาพิจารณาในการปฏิรูปตำรวจในปัจจุบัน

แนวทางการปฏิรูปตำรวจ บัญญัติ 10 ประการ

จากผลการศึกษาของคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจในปี 2550 ได้เสนอแนวทางการปฏิรูปที่สำคัญ 10 ประการ ได้แก่

  1. การกระจายอำนาจการบริหารงาน
  2. การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน
  3. การสร้างกลไกตรวจสอบการปฏิบัติงานของตำรวจ
  4. การพัฒนางานสอบสวน
  5. การถ่ายโอนภารกิจที่ไม่ใช่งานของตำรวจ
  6. การปรับปรุงสถานีตำรวจ
  7. การพัฒนากระบวนการสรรหา การผลิต และการพัฒนาบุคลากร
  8. การปรับปรุงเงินเดือน ค่าตอบแทน และสวัสดิการ
  9. การส่งเสริมความก้าวหน้าของตำรวจชั้นประทวน
  10. การจัดตั้งหน่วยงานพัฒนากระบวนการยุติธรรม

บทสรุปและข้อเสนอ
ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลต้องดำเนินการปฏิรูปตำรวจอย่างจริงจังและเป็นระบบ โดยนำแนวทางตามบัญญัติ 10 ประการมาดำเนินการพร้อมกันอย่างบูรณาการ ไม่ใช่เพียงแค่การปรับปรุงระบบการบริหารงานบุคคลเพื่อแก้ปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายเท่านั้น การปฏิรูปตำรวจเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของรัฐบาลที่ต้องเร่งดำเนินการเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนทุกคน “ข้อความดังกล่าวระบุ

ท่านสามารถคลิกอ่าน FB ดังกล่าว ที่นี่

https://www.facebook.com/share/p/1BYWsoq21D/?mibextid=wwXIfr